Page 299 - Publicationa15
P. 299

การเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์กับการพัฒนาประชาธิปไตย  291



                      3. แนวคิดว่าด้วยการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ การเมืองสมานฉันท์และ

                 การแก้ไขความขัดแย้ง 2
                        ควำมหมำยของค�ำว่ำสมำนฉันท์ ตำมพจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตยสถำน
                 พ.ศ. 2542 ได้อธิบำยค�ำ “สมำนฉันท์” ไว้ว่ำ “ควำมพอใจร่วมกัน ควำมเห็น
                 พ้องกัน” ส�ำหรับภำษำอังกฤษมีค�ำที่หมำยถึง สมำนฉันท์ได้หลำยค�ำ เช่น ค�ำว่ำ

                 “Consolidation” ซึ่งแปลว่ำ กำรรวมตัวเป็นหนึ่ง หรือ “กำรสมัครสมำน
                 กลมเกลียว หรือ กำรเชื่อมควำมสำมัคคี” แปลโดยรวมว่ำ ควำมสำมัคคีกลมเกลียว
                 เป็นหนึ่งเดียวกัน หรือค�ำว่ำ “Unanimous” ตำมพจนำนุกรมอังกฤษ-ไทย
                 ของ ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม หมำยควำมว่ำ “เป็นเอกฉันท์ไม่มีข้อโต้แย้ง

                 มีน�้ำหนึ่งในเดียวกัน มีควำมเห็นพร้อมเพรียงกัน” หรือใช้ค�ำว่ำ “Consensus”
                 หมำยควำมว่ำ “ควำมสอดคล้องกัน ควำมลงรอยกัน ควำมคิดเห็นของคน
                 ส่วนใหญ่ มติมหำชน” ค�ำในภำษำไทย ตีควำมหมำยสั้นๆ ได้ว่ำเป็น “ควำม
                 สมำนฉันท์”

                        มีนักวิชำกำรหลำยท่ำนได้กล่ำวถึง “สมำนฉันท์” ในหลำยๆ ด้ำน ด้ำน
                 ที่ส�ำคัญที่สุดคือ กำรเมืองสมำนฉันท์ เพรำะเป็นระบบที่มีควำมส�ำคัญต่อคน
                 เพรำะนั่นหมำยถึงกำรน�ำมำซึ่งควำมสุข ควำมสมัครสมำนสำมัคคี รักใคร่
                 ปรองดอง อยู่กันอย่ำงสันติวิธี เป็นควำมต้องกำรของประชำชนในประเทศ

                        ค�ำนิยำม “Consensus” democracy ประชำธิปไตยแบบสมำนฉันท์
                 แสวงหำจุดร่วม บนควำมแตกต่ำง คือ สมำนฉันท์
                        3.1  การเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์
                            ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง (2551: 85-86) ส�ำหรับ

                 ควำมหมำยของกระบวนกำรกำรเลือกตั้งเชิงสมำนฉันท์ในมิติของแนวคิด น่ำจะ
                 หมำยถึงกิจกรรมทำงกำรเมืองที่ประชำชนผู้เป็นเจ้ำของอ�ำนำจอธิปไตยได้มี
                 ส่วนร่วม (participation) ในกระบวนกำรกำรเลือกผู้แทนเพื่อไปท�ำหน้ำที่
                 แทนตน โดยลดควำมตึงเครียดและควำมขัดแย้งในกำรแข่งขันเพื่อชิงกำรน�ำ






                 2  เพิ่งอ้ำง, หน้ำ 4-10





        _17-0315(285-305)14.indd   291                                     4/27/60 BE   11:58 AM
   294   295   296   297   298   299   300   301   302   303   304