Page 61 - Publicationa15
P. 61
ประชาธิปไตยกับขอบเขตของสิทธิและเสรีภาพในการประกอบธุรกิจ 53
ประชาธิปไตยกับขอบเขตของสิทธิและเสรีภาพ
ในการประกอบธุรกิจ
เชาวน์ กาญจนไพบูลย์*
1. ที่มาและสภาพปัญหา
เนื่องจากในสภาวการณ์ปัจจุบันประเทศไทยมีการประกอบธุรกิจจาก
ภาคเอกชนเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น
ธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือขนาดย่อม ล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อทั้ง
ภาคเอกชนและภาครัฐ กล่าวคือ การประกอบธุรกิจของภาคเอกชนก็จะเป็น
การอ�านวยความสะดวกให้กับประชาชน และเป็นการเกื้อหนุนกันเองระหว่าง
ภาคเอกชน ส่วนในภาครัฐนั้น รัฐก็จะได้เก็บภาษีจากเอกชนเพื่อน�าไปพัฒนา
ประเทศต่อไป ท�าให้ไม่ว่าจะมองในด้านใดการประกอบธุรกิจของภาคเอกชนนั้น
ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ในปีพุทธศักราช 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียน ซึ่งจะท�าให้เกิดการเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างชาติมากขึ้น ย่อม
ส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศไทยทั้งในด้านบวก และ
ด้านลบ เช่น การเข้าเมืองที่ลดความเข้มงวดลงอาจท�าให้เกิดการน�าเข้าสิ่ง
ผิดกฎหมายได้ง่ายขึ้น เป็นต้น ดังนั้นรัฐจึงจ�าเป็นที่จะต้องมีการสร้าง
กระบวนการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเป็นพิเศษนอกเหนือไปจากกระบวนตามปกติ
ธรรมดาที่ได้ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้หลักการเสรีภาพในการประกอบธุรกิจเป็น
หลักการหนึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 โดยมาตรา 43
ก�าหนดว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพ
และการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม” ซึ่งปัญหาย่อมเกิดขึ้นเมื่อประเทศไทย
เข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้วว่า ค�าว่า “บุคคล” ตามมาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญนี้
* กรรมการกฎหมายธุรกิจ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “หลักนิติธรรม
เพื่อประชาธิปไตย” รุ่นที่ 1
_17-0315(053-071)4.indd 53 4/27/60 BE 11:53 AM