Page 192 - โครงการระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรม
P. 192

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) โครงการระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรม


                                        5.3) ยุทธศาสตร์การวิจัยรายประเด็นด้านการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical

                  Hub) (ส านักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. [2557]. ยุทธศาสตร์การวิจัยรายประเด็นด้านการเป็นศูนย์กลางทาง
                  การแพทย์. กรุงเทพมหานคร:)

                                       นโยบายศูนย์กลางทางการแพทย์ของไทยเป็นนโยบายที่ประกาศใช้โดยรัฐบาลเมื่อปี
                  2556 อย่างไรก็ตามจุดเริ่มของนโยบายนี้มาจากการขยายตัวของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หรือเชิงสุขภาพ

                  (Medical Tourism) ซึ่งเกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยมีการจัดให้ผู้ป่วยไปรับบริการด้านการแพทย์หรือด้าน สุขภาพ
                  ในประเทศอื่นที่มีบริการที่มีคุณภาพสูงกว่า หรือมีค่าใช้จ่ายต่ ากว่าหรือเสียเวลารอคิวน้อยกว่า และใน บางกรณีก็มี

                  การผสมผสานบริการด้านการรักษาพยาบาลและการพักฟื้นกับการท่องเที่ยวด้วยการที่ประเทศไทย เป็นแหล่ง

                  ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติและเป็นประเทศที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและ ท างานอย่าง
                  กว้างขวางท่าให้สถานพยาบาลในประเทศไทยหลายแห่งมีประสบการณ์กับการรักษาชาวต่างชาติ อยู่แล้ว ประกอบ

                  กับประเทศไทยมีแพทย์ที่ไปศึกษาต่อในต่างประเทศจ านวนมาก แพทย์ไทยจ านวนไม่น้อยจึงมี ศักยภาพในการ

                  รักษาพยาบาลชาวต่างประเทศและนักท่องเที่ยว จุดเปลี่ยนที่ส าคัญของการขยายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ใน
                  ประเทศไทยเกิดขึ้นหลังปี 2540 จากความพยายามของภาคเอกชนเพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจฟอง

                  สบู่ กล่าวคือ ในช่วงที่ประเทศ ไทยอยู่ในภาวะฟองสบู่นั้น โรงพยาบาลเอกชนของไทยก็คล้ายกับธุรกิจเอกชนอื่นๆ

                  ที่ได้มีการลงทุนด้านการ ก่อสร้างและขยายกิจการอย่างขนานใหญ่เนื่องจากกลุ่มที่เคยเป็นลูกค้าหลักมีรายได้ลดลง
                  จึงหันไปรับบริการ รักษาพยาบาลที่อื่น โรงพยาบาลเหล่านี้จึงพยายามปรับตัวโดยการหาลูกค้าจากประเทศที่มี

                  ก าลังซื้อสูง (เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป และตะวันออกกลาง) เข้ามาเสริม ในส่วนของภาครัฐนั้น เนื่องจากในช่วงวิกฤติ
                  ดังกล่าวประเทศ ไทยมีปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในอัตราที่สูงติดต่อกันมานานหลายปีหลังจากภาวะเศรษฐกิจ

                  ฟองสบู่แตก รัฐบาลจึงได้พยายามผลักดันให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้นซึ่งนอกจากการส่งออกสินค้าและแรงงานไป

                  ต่างประเทศ แล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ยังหันมาสนใจการหารายได้เข้าประเทศ
                  จากบริการ ด้านสาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมาสาธารณสุขของไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในระดับภูมิภาคอยู่แล้ว โดย

                  ให้มีการ ขยายบริการในรูปของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่มีการน่าคนไข้จากประเทศที่มีก าลังซื้อสูงมารับบริการ
                  ทาง การแพทย์และสุขภาพในประเทศไทย และดึงดูดผู้ที่เกษียณอายุมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย นโยบายนี้ได้

                  ก าหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (พ.ศ. 2547-2551) ภายใต้หลักการและเหตุผลว่า โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค

                  ส่งผลให้บริการสาธารณสุขกระจายทั่วถึงทั้งประเทศ ท าให้โรงพยาบาลเอกชนที่มีขีด ความสามารถถือเป็นโอกาสที่
                  จะพัฒนาบริการและสิ่งอ่านวยความสะดวกทางด้านบริการการแพทย์และสุขภาพ โดยยกระดับมาตรฐานคุณภาพสู่

                  สากลสามารถไปน าเสนอในต่างประเทศได้เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่มี ประสิทธิภาพและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

                  ให้กับประเทศ
                                อุตสาหกรรมด้านการแพทย์ในประเทศไทยนั้นถือว่ามีความโดดเด่น และมีความส าคัญในระดับ

                  โลกทั้งด้านภาคการบริการ และการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยทั้งนี้ในอนาคตประเทศไทยจะสามารถ

                  เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ของโลก ด้วยการมุ่งเน้นในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิต



                  ส านักงานศูนย์วิจัยและให้ค าปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์                             หน้า 5 - 23
   187   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197