Page 47 - ลูกเสือ กศน. สค32035
P. 47
34
4) รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอลุยเดช รัชกาลที่ 9
(พ.ศ. 2489 – 2559)
ครั้นมาถึงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
รัชกาลที่ 9 ที่ทรงเสด็จขึ้นเสวยสิริราชสมบัติ ตอจากพระเจาอยูหัวรัชกาลที่ 8 ในวันที่ 9 มิถุนายน
พ.ศ. 2489 พระองคทรงปฏิบัติราชภารกิจในฐานะกษัตริย ในหลาย ๆ ดาน กิจการลูกเสือ เปน
กิจการที่พระองคทรงใหความสําคัญเปนอยางยิ่ง อันสงผลในการกระตุนใหขาราชการที่เกี่ยวของ
มีความกระตือรือรน ซึ่งนั่นเปนการสงสัญญาณวา
กิจการลูกเสือจะไดรับการฟนฟูใหกลับมามีชีวิตชีวา
อีกครั้ง เพียง 1 ป หลังจากการขึ้นครองราชย รัฐบาลที่
มีนายปรีดี พนมยงค เปนผูนํา ไดออกพระราชบัญญัติ
ป พ.ศ. 2490 ซึ่งมีลักษณะที่คลายกับพระราชบัญญัติ
ป พ.ศ. 2482 แตมีสาระที่เพิ่มขึ้น คือ
“กําหนดใหพระมหากษัตริยทรงดํารงตําแหนง
บรมราชูปถัมภคณะลูกเสือแหงชาติ” กิจการยุวชน
ทหารจึงไดถูกยุบลงไปโดยปริยาย ทําใหลูกเสือกลับมา
มีบทบาทในสังคมอีกครั้ง รวมทั้งไดทรัพยสินที่เคยถูก
ถายโอนใหไปอยูรวมกับยุวชนทหารกลับคืนมาดวย
หลังจากกิจการลูกเสือถูกปลุกใหฟนคืนมา
ก็ไดกาวหนาไปอยางรวดเร็ว จนไดมีการจัดตั้งกอง
ลูกเสือในโรงเรียนตาง ๆ ทั่วประเทศ แมองคพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเอง
ก็ยังทรงจัดตั้งกองลูกเสือขึ้นในโรงเรียนจิตรลดา และโปรดเกลาฯ ใหสมเด็จพระเจาลูกยาเธอ
เจาฟาวชิราลงกรณฯ (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารฯ) ทรงสมัครเขาเปน
ลูกเสือดวย ในป พ.ศ. 2507 รัฐบาลไดออกพระราชบัญญัติอีก 1 ฉบับ เพื่อปรับปรุงกฎหมาย
วาดวยกิจการลูกเสือใหทันสมัยและทันเหตุการณยิ่งขึ้น
โดยมาตรา 5 กําหนดใหคณะลูกเสือแหงชาติ ประกอบดวยลูกเสือทั้งปวง ผูบังคับบัญชา
ลูกเสือ ผูตรวจการลูกเสือ กรรมการลูกเสือ และเจาหนาที่ลูกเสือ และมาตรา 8 กําหนดให
พระมหากษัตริยทรงเปนพระประมุขของคณะลูกเสือแหงชาติ