Page 10 - คน ๒ ภพ
P. 10

10                        คน ๒ ภพ                                                                                    ปอ ปาลิตา                       11


                  หมอนีรชากับลูกชายและอรุณียืนรอ จนกระทั่งหมอ                                        ลูกของแพทย์ทั้งสอง

          เกียรติพงศ์ขับรถเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน จากนั้นจึงเดินไปพร้อม                                        หลังจากเด็กสาวน�าน�้าเย็นใส่ถาดมาเสิร์ฟให้ทุกคนแล้ว

          กัน ขณะที่หญิงสาวเลื่อนประตูปิดไว้ตามเดิม                                                  อรุณีได้ขอร้องให้เด็กชายกิตติชัยเล่าความเป็นมาทั้งหมด ซึ่งหมอ
                                                                                                     เกียรติพงศ์กับหมอนีรชาก็เห็นด้วย หนูน้อยจึงยินดีเล่าให้ฟัง

          เมื่อเข้ามาในบ้าน หญิงกลางคนแนะน�าให้ลูกสาววัย ๒๑ ของ                                              “เอกขอเล่าตอนเป็นคุณธวัชชัยนะฮะ” หนูน้อยพูดกับพ่อ

          เธอรู้จักกับหมอทั้งสอง อ้างว่าเป็นเพื่อนเก่าแวะมาเยี่ยม จากนั้นให้                         ของเขา “คุณป้าอรุณีจะได้เข้าใจ”

          ลูกสาวขึ้นไปพักผ่อนในห้องนอนชั้นบน                                                                 สองหมอพยักหน้า หันไปสบตากับหญิงวัยกลางคน จาก
                  “พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อของนะลูกนะ” เธอกล่าวตามหลังลูกสาว                               นั้นผู้ใหญ่ทั้งสามก็นิ่งฟังด้วยความตื่นเต้นระทึกใจ

                  เด็กชายกิตติชัยมองดูลูกสาวในอดีตชาติ รู้สึกดีใจที่เห็น                                     “วันนั้นผมเสียชีวิตตอนใกล้ค�่า เพราะเชื้อมะเร็งมันลาม

          เธอเติบโตจนเข้าสู่วัยสาว แล้วถอนหายใจเฮือกมองสภาพบ้านซึ่ง                                  ไปทั่วแล้ว” น�้าเสียงของเด็กชายราวกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง “สักพักผม
          เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร แต่เด็กชายกิตติชัยหรือธวัชชัยก็ทักโน่น                                เห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียง ไม่นานก็มีผู้ชายร่างใหญ่สูง ๖ หรือ ๗

          ทักนี่ได้ถูกต้อง ทุกครั้งที่พูดเขาจะมีกิริยาต่างกัน คือพูดกับพ่อแม่                        ฟุต ท่าทางน่ากลัวมาก มาบอกให้ผมไปกับเขา ผู้ชายคนนี้สวมกาง

          ตามประสาเด็ก พูดกับอรุณีเหมือนเขาเป็นสามีของเธอ แสดงว่า                                    เกงหลวมๆ สีแดงยาวแค่เข่า เสื้อสีแดงไม่มีแขนไม่มีกระดุม จึงเห็น
          สภาวะของหนูน้อยก�าลังเป็นคน ๒ ภพในเวลาเดียวกัน                                             หน้าอกเต็มไปด้วยลายสักยันต์สีด�า และโพกผ้าแดงด้วย…”

                  เด็กชายกิตติชัยเดินไปที่ตู้โชว์มองดูรูปในกรอบขนาด ๘                                        ชายชุดแดงน�าธวัชชัยไปบนเส้นทางที่มีหมอกควันหนาทึบ

          คูณ ๑๐ นิ้ว เป็นภาพธวัชชัยกับอรุณีถ่ายคู่กัน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง                            มองไม่เห็นสิ่งอื่นใด ฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนจะตก การเคลื่อนไหวนั้น
          เด็กชายมองภาพแล้วหัวเราะ หันมากล่าวกับอรุณี                                                เร็วมากจนน่าจะลอยไปมากกว่าก้าวเท้าเดิน สักครู่ใหญ่ๆ ธวัชชัยก็

                  “ภาพนี้ถ่ายตอนไปเที่ยวภูกระดึง เราพนันกันว่าใครจะถึง                               เห็นท้องฟ้าข้างหน้าเป็นสีแดง อากาศเปลี่ยนเป็นร้อนขึ้นอย่าง

          ภูก่อน ปรากฏว่าพอถึงพร่านพรานแปหรือซ�ากกหว้านี่แหละ เรา                                    รวดเร็ว
          สองคนก็เหนื่อยเกือบตาย ฮ่ะ ฮ่ะ”                                                                    “ชายชุดแดงคือยมทูต เขาพาผมไปเมืองนรก” เอกพูด

                  แม้เด็กน้อยจะพูดแบบข�าขัน แต่อรุณีกลับร้องไห้ออกมา                                 หนักแน่น “ยิ่งเดินไปอากาศร้อนยิ่งมากจนกระทั่งสุดทางสายนั้น…”

          ดังๆ เธอยอมรับแล้วว่าเด็กคนนี้คือสามีของเธอกลับชาติมาเกิดเป็น                                      ยมทูตได้พูดกับธวัชชัยว่า มนุษย์ทุกคนเมื่อสิ้นอายุขัยแล้ว
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15