Page 117 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 117
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ถวายความเคารพด้วยการนำาเสด็จอย่างเป็นทางการด้วยวอหรือช้างทรง
กลับหยามพระเกียรติด้วยการเตรียมเพียงรถเทียมโคสองตัวไว้ให้เท่านั้น
วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๘ คือวันสุดท้ายที่มีสถาบัน
กษัตริย์ในประเทศพม่า นับจากที่พระเจ้าธีบอประกาศยอมจำานนเพียงหนึ่ง
วัน บัลลังก์แห่งราชวงศ์อลองพญาที่ยิ่งใหญ่ถูกปล่อยให้ว่างลง และคงว่าง
อยู่เช่นนั้นอย่างถาวรสืบมา เพียงไม่กี่เดือนให้หลัง คือในวันที่ ๑๐ มกราคม
พ.ศ. ๒๔๒๕ มหาอาณาจักรอันยิ่งใหญ่แห่งสุวรรณภูมิก็ถูกผนวกเข้าเป็น
ส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอินเดีย
กษัตริย์แห่งพม่าเสด็จลี้ภัยมาประทับที่เมืองรัตนคิรี ในเขตปกครอง
ของอินเดีย พระองค์ประทับอยู่ที่นี่จวบจนเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๙
ส่วนพระนางศุภยลัตนั้น ทางอังกฤษอนุญาตให้เสด็จกลับมาประทับที่พม่า
ได้ในภายหลัง โดยเลี้ยงพระชนม์ชีพด้วยเงินที่อังกฤษจัดถวายเพียงเดือนละ
ไม่กี่พันรูปี พระนางเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘
การสูญสิ้นของสถาบันกษัตริย์ทำาให้ชาวพม่าเกิดความหวั่นวิตก
กษัตริย์คือเจ้าชีวิต ทรงอยู่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติสุขของราษฎร เป็นพระผู้
อุปถัมภ์ค้ำาชูพระพุทธศาสนา เมื่อสถาบันถูกล้มล้าง ชาวพม่าจึงอยู่ในอาการ
หลงทาง เคว้งคว้างและสับสน เสมือนว่าโลกนี้ได้ดับสูญไปแล้ว ไม่เพียง
สถานะทางการเมือง แต่วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวพม่าทุกคนต้องเปลี่ยนแปลง
ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขายังไม่อาจทำาใจรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้
ดังนั้น ภายหลังจากที่ถูกอังกฤษเข้ายึดครอง แผ่นดินพม่าก็เกิด
ความอลหม่านพอสมควร ทีแรกนั้นมีอังกฤษความคิดที่จะหาเจ้านายสัก
พระองค์ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์หุ่นเชิดเพื่อคงความสงบเรียบร้อยเอาไว้
สักช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็เปลี่ยนใจแล้วผนวกให้พม่ากลายเป็นดินแดนส่วนหนึ่ง
ของจักรวรรดิอินเดีย กลายเป็นว่าพม่าอยู่ภายใต้อินเดียอีกทอดหนึ่ง ยิ่ง
สร้างความเจ็บช้ำาให้แก่คนพม่ามากยิ่งขึ้น จนเกิดการประท้วงและปฏิวัติโดย
๑๐๙