Page 132 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 132
ประวัติศาสตร์จานเดียว
เบิร์ต ผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ประจำาการในอินเดียเข้ามาประจำาการในพม่า
แทน และยังเคลื่อนกองกำาลังทหารบางส่วนจากอินเดียเข้ามาเสริมในพม่า
อีกจำานวนมาก กองทหารของเซอร์รอเบิร์ต ค่อยๆ โจมตีขับไล่กลุ่มกบฎ
ทางตอนใต้จน เจ้าฟ้าชเวโจบายู หัวหน้ากลุ่มกบฎต้องลี้ภัยออกจากพื้นที่
และหัวหน้ากลุ่มอื่นๆ ก็ถูกสังหารลงทีละคนๆ บ้างก็ยอมจำานวนด้วยสู้ทหาร
อังกฤษที่เหนือกว่าทั้งจำานวนและความทันสมัยของอาวุธไม่ได้
ทางพม่าตอนบนมีนายพลแพรนเดอกาสต์ ผู้ปลดพระเจ้าธีบอลง
จากบัลลังก์คอยสั่งการให้จัดการพวกกบฎอย่างเด็ดขาดและรุนแรง ซึ่งก็นับ
ว่าได้ผล แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเสียงทัดทานจากนายทหารและนักการเมือง
ข้างอังกฤษเองด้วยซ้ำาว่านโยบายนี้รุนแรงเกินจำาเป็น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีการ
ทำาอะไรไปมากกว่านั้น การใช้กำาลังเข้าปราบปรามทำาให้อังกฤษเริ่มที่จะจัด
ระเบียบพม่าให้เข้าที่เข้าทางได้ง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อังกฤษเริ่มเข้าปกครองพม่าโดยวางรากฐานจากหน่วยเล็กๆ โดย
เริ่มดึงเอาข้าราชการท้องถิ่นของพม่าเข้ามาเป็นพวก ให้ยอมอ่อนน้อมและ
ยอมรับการบริหารแบบใหม่ อังกฤษฉลาดพอที่จะไม่ยกเลิกรูปแบบการ
บริหารแบบเก่าแบบยกกระบิ โครงสร้างหลักๆ ของชุมชนและอิทธิพลใน
ท้องถิ่นยังคงมีอยู่ แต่อังกฤษใช้การโน้มน้าวด้วยผลประโยชน์เพื่อให้การ
บริหารเป็นไปตามที่พวกตนต้องการ
จากบันทึกที่มีนั้นสามารถแบ่งเรื่องราวพฤติกรรมของอังกฤษที่มีต่อ
พม่าได้เป็นสองฝ่าย คือถ้าเป็นบันทึกจากฝั่งพม่าก็จะบอกว่าอังกฤษนั้นเลว
ร้ายและต่ำาช้ามากในการปกครอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้กำาลังเข้ากดขี่ การเข้า
มาตักตวงผลประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัว ขณะที่ถ้าเป็นบันทึกจากฝั่งอังกฤษ
หรือกระทั่งชาวยุโรปอื่นๆ ก็จะบอกว่าการปกครองนั้นดำาเนินไปอย่างละมุน
ละม่อม มีการใช้กำาลังบ้างเท่าที่จำาเป็น ซึ่งก็เป็นธรรมดาของการบันทึก
ประวัติศาสตร์ที่ย่อมจะมีความเอนเอียงอยู่บ้าง ดังนั้นผู้ศึกษาประวัติศาสตร์
๑๒๔