Page 234 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 234
ประวัติศาสตร์จานเดียว
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นอย่างดีคือภาพที่เธอยังคงนั่งนิ่งเพียงลำาพังอยู่ภายใน
รถ ทั้งที่สภาพแวดล้อมแถบนั้นเต็มไปด้วยยุง ซึ่งเสี่ยงต่อการติเชื้อมาลาเรีย
อย่างมาก รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ และอีกหลายประเทศต่าง
รุมประนามการกระทำาที่ไม่เข้าท่านี้จนรัฐบาลพม่าทนไม่ได้ ส่งกองกำาลัง
ปราบจลาจลกว่าร้อยนายเข้าบังคับให้เธอต้องยอมถอยกลับ ซูจีประกาศ
อย่างไม่เกรงกลัวว่าอีก ๑๕ วัน เธอจะเดินทางไปมัณฑะเลย์ให้จงได้ไม่ว่าจะ
เกิดอะไรขึ้น
คราวนี้รัฐบาลไม่ยอมพลาดซ้ำาสอง แม้ว่าเธอกับผู้ติดตามจะเดิน
ทางไปถึงสถานีรถไฟได้ แต่กลับพบว่าสถานีรถไฟถูกปิดล้อมโดยกองทหาร
เธอถูกบังคับให้กลับบ้านอย่างไม่มีเงื่อนไขและถูกประกาศจำากัดบริเวณ
เป็นครั้งที่สอง ด้วยเหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง แต่การกัก
บริเวณครั้งนี้ดูผ่อนคลายกว่าครั้งแรกมาก เมื่อรัฐบาลทหารยอมให้ผู้สื่อข่าว
บางสำานักเข้าเยี่ยมและสัมภาษณ์เธอได้ ตัวแทนจากนานาชาติรวมถึงจาก
สหประชาชาติก็ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้เช่นกัน การกักบริเวณครั้งนี้กิน
เวลา ๑๙ เดือน เธอได้รับอิสรภาพอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
แม้จะถูกกักบริเวณถึงสองหนแต่ซูจีก็ยังเดินหน้าไม่หยุด หลังได้รับ
อิสระในครั้งที่สอง เธอเดินทางขึ้นเหนือเพื่อพบปะกับชนกลุ่มน้อยและเมือง
เล็กเมืองน้อยต่างๆ เพื่อสร้างฐานเสียงของพรรค น่าแปลกที่คราวนี้ไม่ถูก
กีดขวางการเดินทาง แต่เมื่อไปถึงที่หมายกลับพบว่าประชาชนถูกสั่งห้ามไม่
ให้ออกมาต้อนรับหรือฟังการปราศรัย เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ คณะ
ของเธอเดินทางถึงเมืองซาเกียง โดยมีกลุ่มชายนิรนามพร้อมอาวุธครบมือ
แสดงท่าทีไม่เป็นมิตรเรียงรายต้อนรับ สถานการณ์เริ่มตึงเครียดจากที่แค่
ตะโกนด่าทอก็เริ่มมีการลงไม้ลงมือกับชาวบ้านที่ออกมาสนับสนุนและเลย
เถิดไปถึงคณะผู้ติดตาม คราวนี้การปะทะเริ่มรุนแรงมากขึ้น ถิ่นอู ที่ติดตาม
เธอไปด้วยถูกซ้อมจนบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์เริ่มบานปลายจนมีผู้บาด
๒๑๐