Page 229 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 229
ประวัติศาสตร์จานเดียว
เหลือทางเศรษฐกิจแก่พม่า แต่ก้ไม่ได้สะเทือนเสถียรภาพของพม่าสักเท่า
ไหร่ เนื่องจากปิดประเทศมานมนานแล้ว ช่วยหรือไม่ช่วยก็ไม่ได้ส่งผลอะไร
มากมายนักกับพม่า พม่ากลับหันไปญาติดีกับจีนซึ่งนานาชาติไม่ชอบใจนัก
แต่ก็ทำาอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่มักแสดงบทบาทผู้
พิทักษ์โลกแต่กลับไม่ใช่กรณีของพม่า เพราะหากตัดสัมพันธ์กับพม่า ฝ่ายที่มี
ความสุขที่สุดจะเป็นจีนทันที
ข่าวสารที่นานาชาติรับรู้มาจากฝ่ายรัฐบาลทหารที่แถลงข่าวรายวัน
ถึงความเป็นไปที่เรียบร้อยดี แต่ทั่วโลกต่างก็รู้ดีว่ามันไม่จริง ข้อมูลบางส่วน
ที่น่าเชื่อถือว่ามาจากสถานฑูตประเทศต่างๆ ที่ยังอยู่ในพม่า แต่ต่อให้ทราบ
ความจริง ก็ยังยากที่จะเข้าไปจัดการอะไรได้อยู่ดี
ช่วงนี้เองที่อองซาน ซูจี ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล สาขา
สันติภาพ สิ่งหนึ่งที่ทำาให้เธอโดดเด่นในสายตาชาวโลกคือการต่อสู้อย่างสันติ
เธอประกาศอย่างชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ถูกคุกคาม กลุ่มนักศึกษาและผู้
สนับสนุนจำานวนหนึ่งเตรียมอาวุธไว้ทั้งเพื่อปกป้องและตอบโต้กลับ เธอสั่ง
ห้ามการกระทำาใดๆ ที่รุนแรงนั้นเพราะเชื่อว่าความรุนแรงไม่อาจสงบลงได้
ด้วยความรุนแรง หากพลั้งมือทำาอะไรลงไปจะกลายเป็นข้ออ้างให้ฝ่ายตรง
ข้ามลงมือหนักข้อยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้จะถูกกักบริเวณในบ้านของตนเอง เธอ
ก็ไม่ได้แสดงความเกลียดชังต่อทหารที่เข้ามาล้อมบ้านของเธอ ในบางโอกาส
เธอยังได้สนทนาหรือเลี้ยงอาหารแก่พวกเขาเสียด้วยซ้ำา
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามา รัฐบาลยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าจะได้รับชนะ
อย่างแน่นอน ผลจากการกดดันอย่างหนักไม่เพียงเฉพาะพรรค NLD และ
ซูจีเท่านั้น รัฐบาลทหารยังสร้างแรงกดดันกับประชาชนในทุกวิถีทาง การ
ออกกฎระเบียบที่ขัดต่อบรรยากาศแห่งประชาธิปไตย การใช้ความรุนแรงใน
สถานการณ์ที่ไม่จำาเป็น การสับเปลี่ยนโยกย้ายประชาชนและหน่วยเลือกตั้ง
ไปในเขตที่ได้เปรียบกว่า ฯลฯ ทำาให้ประชาชนชาวพม่าแสดงออกค่อนข้าง
๒๐๕