Page 224 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 224
ประวัติศาสตร์จานเดียว
พรรคพวกจำานวนหนึ่งเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่มีส่วนโน้มน้าวให้ซูจีเปลี่ยนความ
คิดเข้าสู่ถนนสายการเมือง เขาเข้าพบและหว่านล้อมให้เธอเข้าร่วมขบวนการ
เรียกร้องประชาธิปไตยโดยอาศัยความเป็นสายเลือดอองซานเป็นธงนำาที่จะ
พาชาวพม่าเดินไปในทิศทางเดียวกัน ซูจีแบ่งรับแบ่งสู้ที่จะเข้าร่วมงานโดยให้
เหตุผลว่าเธอไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองและไม่คิดว่าจะเข้ามาช่วยอะไร
ได้มากนัก แต่เมื่อการเข่นฆ่าประชาชนยังดำาเนินต่อไป เลือดนักสู้ก็เธอก็ฉีด
พล่านและเป็นแรงผลักให้เปลี่ยนความคิด ซูจีตอบรับเข้าร่วมงานในระยะ
สั้นๆ กับขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฐานะผู้ประสานงานทั่วไป
แม้จะบอกว่าเป็นผู้ประสานงานแต่บทบาทของเธอกลับมีมากกว่า
นั้น ชาวพม่าที่ทราบข่าวว่าลูกสาวนายพลอองซานกลับมาแล้ว ต่างดีใจและ
รู้สึกว่าพวกเขามีผู้นำา กิจกรรมของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยดำาเนินไปภาย
ใต้การจับตามองอย่างใกล้ชิดของหน่วนสืบราชการลับ เดือนสิงหาคม พ.ศ.
๒๕๓๑ มีการจัดการชุมนุมอีกครั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลย่างกุ้ง เป็นเวที
เล็กๆ ที่ทางกลุ่มใช้เพื่อแสดงจุดยืน แต่กลับกลายเป็นว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุม
กับเวทีเล็กๆ นี้นับหมื่นคน และซูจีได้ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นครั้งแรก เธอกล่าว
แนะนำาตัวเพียงสั้นๆ แต่จับใจผู้ร่วมชุมนุม แน่นอนว่าทุกย่างก้าวของเธอถูก
จับตามองเป็นพิเศษจากฝ่ายรัฐบาล
สองวันหลังจากนั้น ซูจีมีกำาหนดการที่จะปราศรัยครั้งสำาคัญบริเวณ
ใกล้กับมหาเจดีย์ชเวดากอง ไม่มีการประกาศเชิญชวน ไม่มีการแจกใบปลิว
หรือมีก็ต้องแอบๆ เพราะฝ่ายกองทัพกดดันอย่างหนักเพื่อไม่ให้เกิดกระแสซู
จีฟีเวอร์ แต่เสียงกระซิบกลับดังกว่าเสียงปืน วันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๑
มีชาวพม่าจำานวนมากแออัดเข้ามาฟังการปราศรัยของเธอ ประมาณการว่า
น่าจะราว ๕ แสนคน บางกระแสว่ามีมากกว่านั้น
ซูจีเริ่มต้นด้วยการแนะนำาตนเอง เธอเล่าถึงเหตุผลที่ทำาให้เธอมา
ยืนอยู่ ณ จุดนี้ และสิ่งใดที่เธอปรารถนาและเชื่อว่าชาวพม่าทั้งมวลก็คิดเช่น
๒๐๐