Page 222 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 222
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ครั้งนี้เธอตัดสินใจพา คิม ลูกชายคนเล็กมาอยู่กับเธอด้วย ชีวิตในประเทศ
ญี่ปุ่นเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำาหรับเธอ แม้การใช้ชีวิตที่นั่นจะค่อน
ข้างลำาบากและไม่คุ้นเคยนัก แต่อย่างน้อยเธอก็ได้พบมิตรใหม่ เปิดโลกทัศน์
ใหม่ ที่แตกต่างจากที่เคยพบมาทั้งที่พม่า ภูฐาน หรืออังกฤษ
ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาหรือทำาวิจัยที่อังกฤษหรือที่ญี่ปุ่น ซูจีเขียน
ผลงานเกี่ยวกับประเทศพม่าไว้จำานวนหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องการเมือง สังคม และ
วัฒนธรรม แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ใด ชีวิตและจิตใจของเธอก็ยังคง
เป็นพม่าอยู่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ในช่วงที่พม่าประสบความวุ่นวายและผันผวนทางการเมือง โดย
เฉพาะในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เมื่อนายพลเนวินเข้ายึดอำานาจและบริหารประเทศ
ด้วยอำานาจเผด็จการ ซูจียังคงใช้ชีวิตอยู่นอกประเทศ แม้ว่าจะรับทราบ
ข่าวสารอยู่บ้างแต่เธอก็ยังไม่เคยสัมผัสกับความเป็นจริงด้วยตนเอง
ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ซูจีเดินทางกลับพม่าเพื่อดูแลมารดาที่ป่วยหนัก เธอ
ถูกจับตามองจากหน่วยสืบราชการลับทันทีที่เดินทางเหยียบแผ่นดินพม่า
การเดินทางกลับสู่มาตุภูมิของบุตรสาวของ “บิดาแห่งเอกราชพม่า” มีความ
หมายไม่น้อยกับรัฐบาลและกับชาวพม่า ในสายตาของรัฐบาลเธอคือตัว
วุ่นวายที่อาจจุดชนวนความไม่สงบในประเทศ แต่ในสายตาของประชาชน
เธอคือตัวแทนของความหวัง
ซูจีได้สัมผัสกับความเป็นอยู่ของชาวพม่าที่แท้จริง ได้เห็นถึงความ
โหดร้ายของรัฐบาลเผด็จการที่กระทำาต่อคนในชาติเดียวกัน ความไม่เท่า
เทียมและไร้ซึ่งอิสระภาพ ขณะที่เธอเฝ้ามารดาอยู่ที่โรงพยาบาลย่างกุ้งซึ่ง
ใกล้กับสถานที่ชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา เธอเห็นนักศึกษาที่ได้รับ
บาดเจ็บจากการปราบปรามจำานวนมาก ชาวพม่าบางคนที่รู้ว่าเธอเป็นใครก็
เข้ามาพูดคุยหรือไม่ก็ปรับทุกข์กับเธออยู่เสมอๆ
จนเมื่อเกิดเหตุนองเลือดในเหตุการณ์ “๘๘๘๘” กลุ่มนักวิชาการ
๑๙๘