Page 240 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 240
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ประเทศ
หลังจากกลายเป็นจุดสนใจจากทั่วโลกเมื่อ นางฮิลลารี คลินตัน
เดินทางมาเยือนถึงพม่า เข้าสู่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ซูจีก็เริ่มเดินทางออกนอก
ประเทศ โดยครั้งนี้นับว่าเสียงอยู่เหมือนกัน เพราะอย่าลืมว่าแต่ไหนแต่ไร
มารัฐบาลทหารพยายามอย่างยิ่งที่จะให้เธอออกนอกประเทศด้วยตัวของ
เธอเอง เพราะรัฐบาลจะอ้างเหตุผลนานาประการกีดกันไม่ให้เธอกลับเข้า
ประเทศ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าหนนี้รัฐบาลจะทำาเช่นนั้นหรือไม่ แต่เธอเลือกที่จะ
เสี่ยงเนื่องจากเชื่อมั่นว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอได้รับแรงสนับสนุนอย่างมหาศาล
จากคนพม่าและนานาชาติจนยากที่รัฐบาลทหารจะกล้าทำาอะไรที่เสี่ยงต่อ
การถูกคว่ำาบาตรแบบนั้น ประเทศแรกที่เธอเยือนคือบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง
ประเทศไทย
ภาพที่เธอเดินทางไปเยี่ยมแรงงานพม่าที่จังหวัดสมุทรสาครยืนยัน
ถึงความนิยมในตัวเธอ ชาวพม่าแม้จะอยู่นอกประเทศก็ยังให้การสนับสนุน
เธอกล่าวปราศรัยและยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวพม่า แต่ก็ยัง
ถูกตั้งคำาถามอยู่ดีว่าในเมื่อเธอไม่มีตำาแหน่งในรัฐบาลพม่า แล้วเธอจะทำา
อะไรได้ คำาสัญญาที่ให้ไว้จะไม่มีทางเป็นจริงตราบใดที่เธอยังไม่มีอำานาจที่แท้
จริง ซึ่งก็ต้องเริ่มต้นจากการที่เข้าไปนั่งในสภาเสียก่อน
กับประเทศไทยเองก็ยังถูกตั้งคำาถามถึงความสัมพันธ์กับซูจี ในช่วง
ที่เธอตกระกำาลำาบาก ประเทศไทยก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหรือแสดง
มิตรจิตรมิตรใจแก่เธอ ซ้ำายังสานสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารอย่างแนบแน่นเสีย
อีก เช่นในยุครัฐบาลของ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีการเจรจาการค้าและ
การลงทุนมูลค่ามหาศาลตามนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ด้าน
การทหารและการเมือง ไทยก็ดูจะมีสัมพันธ์อันดีทั้งในนามรัฐต่อรัฐหรือใน
นามส่วนบุคคลที่ยังคลุมเครือเรื่องผลประโยชน์บางอย่าง พลเอกชวลิต ยง
ใจยุทธ ผู้บัญชาการทหารบกและรักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะ
๒๑๖