Page 35 - YEC M
P. 35

ศิลปะอัตลักษณ์ใหม่ของสารคาม


    กระติ๊บข้าว  เครื่องจักสานที่มีอยู่คู่บ้านของทุกครัวเรือนในชุมชนคนกินข้าว
 เหนียวท�าหน้าที่เป็นภาชนะใส่อาหารมาแล้วกี่พันปีคงไม่มีใครสืบค้นทราบได้  แต่เมื่อ
 สิบกว่าปีมานี้นี่เองหน้าที่ของมันได้เปลี่ยนไป  เหตุเกิดที่บ้านหนองโนใต้  อ.นาดูน
 จ.มหาสารคาม เมื่อครูหนุ่มนาม “ครูเซียง” หรือคุณครูปรีชา  การุณ ครูสอนศิลปะ
 ของโรงเรียนในพื้นที่  จู่ๆวันนึงครูเซียงก็ได้สังเกตุเห็นว่าเวลาที่กระติ๊บข้าวถูกเปิดๆ
 ปิดๆขึ้นลงเพื่อล้วงจกข้าวเหนี่ยวนั้น  ฝาด้านบนและด้านล่างของมันมีลักษณะคล้าย
 ปากของคนที่ก�าลังพูดคุยบอกเล่าเรื่องราวบางอย่าง  ด้วยความเป็นศิลปินครูเซียงจึง
 ได้แต่งแต้มหน้าตาให้มันใส่แขนขาและล�าตัวตามจินตนาการ จนกระติ๊บข้าวธรรมดาๆ
 ได้กลายมาเป็นหุ่นเชิดหน้าตาแปลกๆอย่างที่เห็น แถมเครื่องแต่งกายที่หุ่นเหล่านี้สวม
 ใส่  คนทั่วไปก็บอกได้ทันทีว่ามันมาจากที่ราบสูงภาคอีสาน  ครูเซียงได้เชิญชวนเด็กใน
 ละแวกโรงเรียนมาลองเรียนเชิดหุ่นและหัดร้องล�าเป็นท�านองหมอล�า  หัดเล่นเครื่อง
 ดนตรีด้วยพิณด้วยแคนแบบอีสานดั้งเดิม จนการฝึกซ้อมลงตัวการแสดงจึงเกิดขึ้น เริ่ม
 ต้นจากการแสดงเปิดหมวกหาทุนไปเรื่อยๆจนมีทุนสร้างโรงละครเป็นของตนเอง
 แสดงไปเรื่อยๆจนคณะด้านการละครของทั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัย
 มหาสารคามเข้ามาร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆ  แสดงไปเรื่อยๆจนได้มีโอกาส
 โชว์ในงานหุ่นอาเซียน จนมีหนังฉายโรงเป็นของตนเอง แสดงไปเรื่อยๆจนในที่สุดพวก
 เขาได้แสดงเป็นโชว์เปิดงานในเวทีหุ่นละครโลกไปแล้ว  คนทั่วไปรู้จักพวกเขาในนาม
 “คณะหมอล�าหุ่นเด็กเทวดา”  ซึ่งกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าเด็กๆคณะนี้นั้นเก่งสมชื่อ
 ช่วงปีหลังๆสื่อแขนงต่างๆได้ให้ความสนใจหุ่นกระติ๊บคณะนี้ชนิดว่าออกสื่อแทบจะ
 ครบทุกช่องแล้ว   ท�าให้คนภายนอกรู้ว่าจังหวัดมหาสารคามได้ถือก�าเนิดศิลปะการ
 แสดงที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะของสารคามขึ้นมาแล้วและตอนนี้ชาวมหาสารคามทุก
 ภาคส่วนก�าลังระดมก�าลังพลักดันสิ่งที่ครูเซียงเริ่มไว้ให้เป็นสมบัติด้านศิลปวัฒนธรรม
 ประจ�าจังหวัดมหาสารคามสืบต่อไป
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40