Page 71 - 16_การรกษาความปลอดภย_Neat
P. 71

๖๔

















                                                      ÃÐàºÕº

                                    NjҴŒÇ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁÅѺ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÃ
                                                    ¾.È. òõôô





                          โดยที่เปนการสมควรใหมีระเบียบวาดวยการรักษาความลับของทางราชการ

                          อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๖ และมาตรา ๒๖ วรรคหา แหงพระราชบัญญัติ
              ขอมูลขาวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ อันเปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับ
              การจํากัดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลในการรับรูขอมูลขาวสารของราชการ ซึ่งมาตรา ๕๘

              และมาตรา ๒๙ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยบัญญัติใหกระทําได โดยอาศัยอํานาจ
              ของกฎหมายคณะรัฐมนตรีจึงมีมติใหวางระเบียบไว ดังตอไปนี้
                          ¢ŒÍ ñ   ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบวาดวยการรักษาความลับของทางราชการ
              พ.ศ. ๒๕๔๔”

                          ¢ŒÍ ò   ระเบียบนี้ใหใชบังคับเมื่อพนกําหนดหนึ่งรอยยี่สิบวันนับแตวันประกาศ
              ในราชกิจจานุเบกษา เปนตนไป
                          ¢ŒÍ ó   บรรดาระเบียบ ขอบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และคําสั่งอื่นใด ในสวนที่กําหนด
              ไวแลวในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแยงกับระเบียบนี้ ใหใชระเบียบนี้แทน
                          ¢ŒÍ ô   ใหนายกรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบนี้



                                                       ËÁÇ´ ñ
                                                       º··ÑèÇä»





                          ¢ŒÍ õ   ในระเบียบนี้

                                 “ขอมูลขาวสารลับ” หมายความวา ขอมูลขาวสารตามมาตรา ๑๔ หรือ
              มาตรา ๑๕ ที่มีคําสั่งไมใหเปดเผยและอยูในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหนวยงานของรัฐ
              ไมวาจะเปนเรื่องที่เกี่ยวกับการดําเนินงานของรัฐหรือที่เกี่ยวกับเอกชนซึ่งมีการกําหนดใหมีชั้นความลับ
              เปน ชั้นลับ ชั้นลับมาก หรือชั้นลับที่สุด ตามระเบียบนี้โดยคํานึงถึงการปฏิบัติหนาที่ของหนวยงาน

              ของรัฐและประโยชนแหงรัฐประกอบกัน
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76