Page 3 - สารกรมการแพทย์ ฉบับที่ 7
P. 3
ขาว Hot ประเด็นรอน 3
แพทยชี้
“ใชน้ำมนตรักษาโรคผิวหนัง
เสี่ยงติดเชื้อ”
สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย ชี้ “ใชน้ำมนตรักษาโรคผิวหนัง เสี่ยงติดเชื้อ” ทำใหการรักษามีความยุงยากซับซอนมากขึ้น
และอาจมีอันตรายถึงชีวิตได
นายแพทยณรงค อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย แพทยหญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผูอำนวยการสถาบัน
และโฆษกกรมการแพทย กลาววา ขณะนี้มีการแชรขอความ โรคผิวหนัง กรมการแพทย กลาวเพิ่มเติมวา ปกติผิวหนัง
ผานสื่อเรื่องการใชน้ำมนตรักษาผูปวยโรคผิวหนังอยางตอเนื่อง ของมนุษยสามารถปองกันเชื้อโรคเขาสูทางผิวหนังไดเปนอยางดี
กรมการแพทยจึงขอใหขอมูลแกประชาชนเพื่อปองกัน แตเมื่อรางกายไดรับบาดเจ็บจนผิวหนังเกิดรอยปริแยกขึ้น
ความเชื่อที่วาการใชน้ำมนตสามารถรักษาโรคผิวหนังใหหายได ไมวาจากการเกา การกระทบกระทั่งจนเกิดรอยถลอก หรือ
เนื่องจากขอมูลทางการแพทยระบุวาการรักษาโรคผิวหนัง น้ำรอนลวกเปนแผลพุพอง การปองกันเชื้อโรคเขาสูรางกาย
ตองมีความระมัดระวังเนื่องจากเมื่อผิวหนังเกิดโรคตาง ๆ ขึ้น บริเวณนั้นจะสูญเสียไป ดังนั้น การใชน้ำมนตเปาไปยังจุดที่
เชน งูสวัด แผลน้ำรอนลวก หรือการอักเสบอื่น ๆ ผิวหนัง เปนโรคงูสวัด และแผลน้ำรอนลวกจึงมีโอกาสติดเชื้อโรคเพิ่มเติมสูง
บริเวณนั้น ๆ มักมีการปริแยก ซึ่งเปนชองทางที่เชื้อโรคจะเขาสู โรคงูสวัด เปนโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ผูปวยมักจะเปนในชวงที่
รางกายไดโดยงาย การใชยาเพื่อการรักษายังตองมีการฆาเชื้อ รางกายออนแอ ภูมิคุมกันโรคลดลง ความเสี่ยงในการติดเชื้ออื่น
และการจัดเก็บแบบปลอดเชื้ออยางดีกอนนำมาใช เพื่อปองกัน เพิ่มเติมจึงมีไดงาย เชนเดียวกับแผลจากน้ำรอนลวก ผิวหนัง
การติดเชื้อซ้ำเติม ดังนั้น การใชน้ำมนต ซึ่งไมมีการดูแลเรื่อง มีอาการบาดเจ็บเปนแผล การใชสิ่งที่ไมสะอาดสัมผัสแผลโดยตรง
ความสะอาด และใชปากอมพนใสตรงจุดที่มีรอยปริแยกของ อาจจะทำใหเกิดการติดเชื้อซ้ำ จนเขาสูกระแสโลหิตเกิดผลขางเคียง
ผิวหนัง จึงเปนความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มเติม รายแรงตอระบบอื่น ๆ ของรางกาย จึงขอแนะนำวาการรักษา
โรคทางดานผิวหนัง ควรปรึกษาแพทยผูเชี่ยวชาญเฉพาะดาน
เพื่อใหแพทยตรวจรักษาตามแนวทางและขั้นตอนที่ถูกตอง
เหมาะสมกับผูปวยแตละราย เพื่อใหผิวหนังของผูปวยกลับสู
สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
สารกรมการแพทย ปที่ 1 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม 2561 สารกรมการแพทย