Page 30 - group5sec2000153
P. 30
24
บ่อส ำหรับหมักมูลควำย
2. วิธีกำรเลี้ยงควำย
การเลี้ยงควายที่บ้านนาเชือกนั้น ชาวบ้านจะปล่อยให้ควายกินหญ้าตามริมเขื่อนน้ าอูน หรือ
กินสาหร่ายบ้างสลับกัน และสีของมูลควายก็จะเปลี่ยนไปตามลักษณะการกินของควาย เช่น หากกิน
หญ้าที่มีสีเขียวเข้ม มูลควายที่ได้ก็จะเป็นสีเขียวเข้มตามหญ้านั้น ๆ
3. สีของผ้ำ
ผ้าที่ได้หลังจากการย้อมมูลควายแต่ละครั้งจะมีสีที่แตกต่างกันไปตามสีของมูลควาย เช่น หาก
การย้อมครั้งนี้ ควายกินหญ้าที่มีสีอ่อน เมื่อน าผ้าฝ้ายไปย้อมกับมูลควายแล้วนั้น ผ้าก็จะมีสีเขียวอ่อน
แต่ถ้าหากใช้มูลควายจากควายที่กินหญ้าสีเขียวเข้ม เมื่อน าผ้าฝ้ายไปย้อมกับมูลควายแล้ว ผ้าก็จะ
กลายเป็นสีเขียวเข้ม กล่าวคือสีของผ้าจะขึ้นอยู่กับสีของหญ้าที่ควายกินเข้าไปนั่นเอง
4. วัตถุดิบ
ทางหมู่บ้านนาเชือกมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง คือ วัตถุดิบที่ผลิตนั้นใช้วัตถุดิบทางธรรมชาติ
ล้วนๆ โดยไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากการใช้มูลควายในการให้สีเขียวที่แตกต่างแล้วนั้น
ยังมีการใช้ดินโคลน เพื่อให้สีโอรส และใช้เปลือกไม้ในการให้สีต่าง ๆ และสิ่งส าคัญคือ ผลิตภัณฑ์จาก
หมู่บ้านนาเชือกนั้นยังได้มีการรับรองมาตรฐานความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานที่การันตรี
ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง
5. สมำชิกของกลุ่ม
แรกเริ่มของการจัดตั้งกลุ่มทอผ้าย้อมสีผ้าจากมูลควายบ้านนาเชือกนั้น มีสมาชิกเพียง 12 คน
ที่เป็นกลุ่มแม่บ้านว่างงานได้ไปขอรับค าปรึกษาจากพระอาจารย์ จากนั้นจึงมีการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตาม
จ านวนผู้ที่มีความสนใจ
6. เกณฑ์กำรรับสมำชิกกลุ่ม
โดยส่วนใหญ่แล้วสมาชิกในกลุ่มนั้นจะเป็นผู้อาศัยในชุมชนบ้านนาเชือก แต่ถ้าหากผู้อาศัยใน
ชุมชนอื่นมีความต้องการที่จะเข้าร่วมการท างาน ก็จะมีการแจกจ่ายงานให้แต่ละบุคคล
7. กำรเก็บมูลควำย
ส าหรับการเก็บมูลควายนั้น ทางประธานกลุ่มทอผ้าย้อมสีผ้าจากมูลควายจะสั่งให้สมาชิกคน
อื่นที่เลี้ยงควายน ามูลควายมาหมักในบ่อที่เตรียมไว้ โดยมีการผลัดเวียนกันแต่ละบ้าน โดยจะมีการ
บอกจ านวนถังที่ต้องการ เพื่อน ามาเตรียมหมัก บ่อหนึ่งส าหรับมูลควาย และอีกบ่อหนึ่งส าหรับการ
หมักดินโคลน หรือเปลือกไม้