Page 120 - สุขศึกษา พลศึกษา ม.ต้น
P. 120

120



                                         2)  ผูที่มีจิตใจไมเปนปกติ เชน มีความวิตก กังวล เครียด มีความผิดหวังในชีวิต มี
                   ความเศราสลด เสียใจ เปนตน ทําใหสภาวะจิตไมเปนปกติจนเกิดการปวยทางจิตขึ้น จึงพยายามหายาหรือสิ่งเสพ
                   ติดที่มีฤทธิ์สามารถคลายความเครียดจากทางจิตไดชั่วขณะหนึ่งมารับประทาน แตไมไดรักษาที่ตนเหตุเมื่อยาหมด

                   ฤทธิ์ จิตใจก็จะกลับมาเครียดอีก และผูปวยก็จะเสพสิ่งเสพติด ถาทําเชนนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะทําใหผูนั้นติดยาเสพติด

                   ในที่สุด
                                         3)  การไปซื้อยามารับประทานเองโดยไมทราบสรรพคุณยาที่แทจริง ขนาดยาที่
                   ควรรับประทาน การรับประทานยาเกินจํานวนกวาที่แพทยไดสั่งไว การรับประทานยาบางชนิดมากเกินขนาด

                   หรือรับประทานติดตอกันนาน ๆ บางครั้งอาจมีอาการถึงตายได หรือบางครั้งทําใหเกิดการเสพติดยานั้นได

                                 4.  สาเหตุอื่น ๆ
                                     การอยูใกลแหลงขายหรือใกลแหลงผลิต หรือเปนผูขายหรือผูผลิตเอง จึงทําใหมีโอกาส

                   ติดสิ่งเสพติดใหโทษนั้นมากกวาคนทั่วไป
                                     เมื่อมีเพื่อนสนิทหรือพี่นองที่ติดสิ่งเสพติดอยู ผูนั้นยอมไดเห็นวิธีการเสพของผูที่อยู

                   ใกลชิด รวมทั้งใจเห็นพฤติกรรมตาง ๆ ของเขาดวย และยังอาจไดรับคําแนะนําหรือชักชวนจากผูเสพดวย จึงมี
                   โอกาสติดได
                                         1)  คนบางคนอยูในสภาพที่มีปญหา เชน วางงาน ยากจน คาใชจายเพิ่มโดยมีรายได

                   ลดลง หรือคงที่ มีหนี้สินมาก ฯลฯ เมื่อแกปญหาตาง ๆ เหลานี้ไมไดก็หันไปใชสิ่งเสพติดชวยผอนคลายความรูสึก
                   ในความทุกขยากตาง ๆ เหลานี้ แมจะรูวาเปนชั่วครูชั่วยามก็ตาม เชน กลุมใจที่เปนหนี้คนอื่นก็ไปกินเหลา หรือสูบ
                   กัญชาใหเมาเพื่อที่จะไดลืมเรื่องหนี้สิน บางคนตองการรายไดเพิ่มขึ้น โดยพยายามทํางานใหหนักและมากขึ้นทั้ง ๆ

                   ที่รางกายออนเพลียมากจึงรับประทานยากระตุนประสาทเพื่อใหสามารถทํางานตอไปได เปนตน ถาทําอยูเปน
                   ประจําทําใหติดสิ่งเสพติดนั้นได
                                         2)  การเลียนแบบ การที่ไปเห็นผูที่ตนสนิทสนมรักใครหรือเพื่อน จึงเห็นวาเปนสิ่ง

                   นาลอง เปนสิ่งโกเก เปนสิ่งแสดงความเปนพวกเดียวกัน จึงไปทดลองใชสิ่งเสพติดนั้นจนติด
                                         3)  คนบางคนมีความผิดหวังในชีวิตตนเอง ผิดหวังในชีวิตครอบครัว หรือผิดหวัง

                   ในชีวิตสังคม เพื่อเปนการประชดตนเองหรือคนอื่น จึงไปใชสิ่งเสพติดจนติดทั้ง ๆ ที่ทราบวาเปนสิ่งไมดีก็ตาม

                   1.5  อันตรายและโทษของสารเสพติด
                                 สารเสพติดใหโทษมีหลายชนิดไดแพรระบาดเขามาในประเทศไทย จะพบในหมูเด็กและ

                   เยาวชนเปนสวนมาก นับวาเปนเรื่องรายแรงเปนอันตรายตอผูเสพและประเทศชาติเปนอยางยิ่ง ผูเรียนควรทราบ
                   อันตรายจากสารเสพติดในแตละชนิด ดังนี้

                                 1.  ฝน (Opium)  ฝนจะมีฤทธิ์กดประสาท ทําใหนอนหลับเคลิบเคลิ้ม ผูที่ติดฝนจะมีความคิด
                   อานชาลง การทํางานของสมอง หัวใจ และการหายใจชาลง นอกจากนี้ ยังพบวาฝนทําให           ตับเสื่อม
                   สมรรถภาพปลายประสาทและกลามเนื้อหัวใจอักเสบ ระบบยอยอาหารเสื่อมสมรรถภาพ          เบื่ออาหาร ทองผูก

                   ระบบโอรโมนเปลี่ยนแปลง ผูหญิงอาจเกิดการขาดประจําเดือน ผูชายอาจหมดสมรรถภาพทางเพศ และรางกาย
                   ทรุดโทรม
                                     อาการขาดยา  จะเริ่มหลังจากไดรับยาครั้งสุดทาย 4-10 ชั่วโมง แลวไมสามารถหายาเสพ

                   ไดอีก จะมีอาการกระวนกระวาย หงุดหงิด โกรธงาย ตื่นเตนตกใจงาย หาวนอนบอย ๆ น้ํามูก น้ําตา น้ําลาย และ
   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125