Page 43 - mukdahansuksapub
P. 43
43 ลําผญา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานมี ๒๐ จังหวัด แต่ศิลปการแสดงหรือการร้องรํา ทําเพลงจะแบ่งแยกออกเป็น ๓ กลุ่มคือ ๑.กลุ่มเขมร-ส่วย ๓ จังหวัดคือสุรินทร์,บุรีรัมย์และศรีสะเกษจะมีการร้องรําแบบเขมรคือกันตรึม เป็นส่วนมาก ๒.กลุ่มวัฒนธรรมโคราชในเขตจังหวัดนครราชสีมาละบางอําเภอในจังหวัดบุรีรัมย์จะมีการร้องรําที่ เรียกว่าเพลงโคราช ๓.กลุ่มวัฒนธรรมไทย-ลาวอีก ๑๖ จังหวัดจะมีการร้องรําที่เรียกขานกันทั่วไปว่า หมอลํา ศิลปะการร้องรําที่เรียกว่าหมอลําใน ๑๖ จังหวัดจะแบ่งแยกและมีประวัติความเป็นมาที่แตก ต่างกันอีกคือ ๑.หมอลํากลอน แบ่งแยกเป็นหลายประเภทเช่น (๑).ลําโจทย์-ลําแก้ ในอดีตหมอลําส่วนมากจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ,เป็นนักปราชญ์อาจารย์เคยบวชเรียนมา ก่อน จึงเป็นผู้ทรงวุฒิในด้านภาษา,และคุณธรรมจริยธรรม เมื่อสึกแล้วบางท่านอาจจะมีอาชีพเป็นหมอลํา ก็จะ แต่งกลอนลําได้เองอย่างสละสลวย จึงมีการลองภูมิกันระหว่างหมอลําทั้งสองฝ่าย เช่นฝ่ายหนึ่งลําถามเกี่ยวกับ ธรรมะหรือขนบธรรมเนียมประเพณีหรือเกี่ยวกับเรื่องของบาปบุญคุณโทษ อีกฝ่ายหนึ่งก็จะลําโต้ตอบตามภูมิ ปัญญาความรู้ ผู้ฟังก็จะได้ความรู้และสนุกสนานด้วย บางครั้งก็มีการร้องรํากันทั้งคืนในงานมหรสพ (๒).ลําชิงชู้ เป็นการแสดงของหมอลํา โดยมีฝ่ายหญิงหนึ่งคนแต่ฝ่ายชายมีสองคน ฝ่ายชายต่างจะร้อง ลําเกี้ยวพาราสีหมอลําฝ่ายหญิง (๓).ลําเกี้ยว เป็นการร้องรําเกี้ยวพาราสีระหว่างหมอลําฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ๒.หมอลําพื้น เป็นการร้องรําเล่าเรื่องจากนิทานพื้นบ้านเช่นเรื่องสังขสินไซ (ศิลปไชย),จําปาสี่ต้น, นางผมหอมฯลฯส่วนมากจะแสดงในงานศพ,หรือฉลองกองกฐิน,งานประจําปีของหมู่บ้าน ๓.หมอลําหมู่หรือลําเรื่อง เป็นการแสดงของหมอลําที่ได้พัฒนาขึ้น ที่มีการแสดงประกอบเหมือน ลิเก ๔.หมอลําผีฟ้ า เป็นการร้องรําเพื่อบวงสรวงผีฟ้าเพื่อเชิญผีฟ้ามารักษาคนไข้ที่เจ็บป่วย บางครั้งผู้ เจ็บป่วยก็ลุกขึ้นฟ้อนรําตาม เพราะเสียงดนตรีเช่นฆ้องกลอง,เสียงแคนเสียงพิณเร้าใจมาก (๔).ลําผญา เป็นการร้องรําในแถบลุ่มแม่นํ้าโขง ในสองฝั่งแม่นํ้าโขงตอนใต้ตั้งสุวรรณเขตและมุกดาหาร ลงไปตามตํานานเล่าว่าเกิดขึ้นตั้งสมัยที่พระครูโพนเสม็กพาสานุศิษ์อพยพลงมาตามลํานํ้าโขงตั้งแต่ พ.ศ.๒๓๓๓