Page 44 - mukdahansuksapub
P. 44
44 จากนครเวียงจันทน์ การล่องลงมาตามลําแม่นํ้าโขงด้วยเรือหรือแพเป็นเวลาอันยาวนับปีตั้งแต่นครเวียงจันทน์ ลงมาจนถึงนครจําปาศักดิ์ จึงเกิดจินตนาการคิดค้นการร้องรําที่เยือกเย็นโหยหวนยะเยือกวังเวง เดิมแต่ละท้องที่ ก็เรียกชื่อแตกต่างกันไปเช่นในฝั่งลาวที่สุวรรณเขตเรียกว่าลําคอนสวรรค์ ในฝั่งไทยที่มุกดาหารเรียกว่า ลํามุก ลงไปทางแม่นํ้าโขงตอนใต้ตั้งแต่สาลวันลงไปจนถีงนครจําปาศักดิ์และเมืองโขง,สีพันดร จะเรียกว่าลําสีพันดร สําหรับลํามุกในฝั่งไทยต่อมาได้มีแยกออกเป็นลําหัวดอนตาล อีกทํานองจะกระชับขึ้น ต่อมาได้มีผู้รวบรวมและเรียกการลําทํานองนี้รวมกัน ว่าลําผญา การที่เรียกว่าลําผญาก็เพราะว่าเดิมการร้องรําจะมี ฝ่ายหญิงนั่งพับเพียบเรียบร้อย ฝ่ายชายทั้งหมอลําและหมอ แคนจะนั่งคุกเข่าฟ้อนรําและลําเกี้ยวพาราสี ฝ่ายหญิงจะตอบ เป็นคําผญา จึงเรียกว่าลําผญา การลําผญาแบบดั้งเดิม ปัจจุบันในฝั่งไทยได้มีการพัฒนาการลําผญาโดย หมอลําทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายชายแลหญิงจะยืนขึ้นฟ้องรําและลํา โต้ตอบกันแต่ในฝั่งลาวจะยังรักษาแบบดั้งเดิมอยู่คือฝ่ายหญิง ยังนั่งพับเพียบ ฝ่ายชายนั่งคุกเข่าลําและฟ้อนรําด้วย ลําผญาเป็ นศิลปการแสดงที่เป็ นเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของจังหวัดมุกดาหารโดยเฉพาะแตกต่างไป จากการร้องรําอีก ๗๖ จังหวัด การลําผญาในปัจจุบัน ***