Page 7 - แนวทางการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าปี 60
P. 7
ส�าหรับข้อมูลผู้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังสัมผัสโรครวบรวมจากจากระบบรายงานผู้สัมผัสโรค
พิษสุนัขบ้า (ร. 36) ของส�านักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคระหว่างปี พ.ศ. 2554 – 2559* (รวบรวมวันที่ 10
มี.ค. 60) พบผู้มารับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจ�านวน 179,125 167,663 157,109 166,422 166,015 และ
181,738 รายตามล�าดับ ลักษณะการกระจายข้อมูลพบมีผู้ถูกกัดมารับวัคซีนเฉลี่ยเดือนละ 12,000 – 14,000
ราย โดยพบมากในกลุ่มอายุ 36-65 ปี, 16-35 ปี, 1-5 ปี, 66 ปีขึ้นไป และ 6-10 ปีตามล�าดับ อาชีพที่มารับวัคซีน
3 ล�าดับแรก คือ นักเรียน เกษตรกรและรับจ้าง ร้อยละ 35.6, 28.3 และ 25.9 ตามล�าดับ ลักษณะการสัมผัส
ถูกกัดร้อยละ 92.9 (171,635 ราย) มีการล้างแผลก่อนพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร้อยละ 69.2 (126,251 ราย)
ในจ�านวนนี้ล้างด้วยสบู่และน�้าสะอาดร้อยละ 78.7 (98,207 ราย) การใส่ยาฆ่าเชื้อก่อนพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร้อยละ
21.5 (39,141 ราย) ชนิดของยาฆ่าเชื้อที่ใส่ คือ ยาเบตาดีนร้อยละ 13.5 (24,651 ราย) ประวัติการฉีดวัคซีน
ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของผู้สัมผัส ร้อยละ 84.5 ไม่เคย/เคยฉีดน้อยกว่า 3 เข็ม (154,128 ราย) ส�าหรับผู้เคยฉีด
3 เข็มหรือมากกว่าระยะเวลาที่ฉีดวัคซีนนานเกิน 6 เดือน ร้อยละ 90.4 (25,590 ราย)
ด้านความรู้ของประชาชน กรมควบคุมโรค ท�าการส�ารวจความรู้และทัศนคติของประชาชนเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า
ในปี พ.ศ. 2559 จาก 24 จังหวัดทั่วประเทศ จ�านวน 3,276 ตัวอย่างตามล�าดับ พบว่า ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าไม่ถูกต้อง เช่น คิดว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้เพียงร้อยละ
27 คิดว่าสุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าต้องมีอาการดุร้ายทุกตัว (ร้อยละ 34.8) ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจว่าสุนัขที่วิ่งออกไป
กัดกับสุนัขนอกบ้านมีโอกาสติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้สูงถึงร้อยละ 55.1 ทราบว่าลูกสุนัขอายุ 2-3 เดือน ต้องพา
ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าร้อยละ 46.5 คิดว่าสุนัขและแมวฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มเดียวสามารถ
ป้องกันโรคได้ตลอดชีพร้อยละ 13.6 และไม่แน่ใจร้อยละ 57.3 พาสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
เป็นประจ�าทุกปีร้อยละ 34.7 มีความรู้ที่ถูกต้องว่าเมื่อถูกสุนัข/แมวกัดข่วนจนมีเลือดออกต้องล้างแผล ใส่ยา
ไปหาหมอและกักสุนัข-แมวไว้ดูอาการ 10 วันร้อยละ 19.3 คิดว่าคนที่มีอาการของโรคพิษสุนัขบ้าสามารถรักษา
ให้หายได้ร้อยละ 16 ไม่แน่ใจร้อยละ 52.8 คิดว่าการพาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นหน้าที่ของ
เจ้าของสัตว์ร้อยละ 52.3 ทราบว่าไม่ควรน�าสุนัขหรือแมวไปปล่อยที่วัดหรือโรงเรียนร้อยละ 63.2 ประชาชนให้
อาหารสุนัขจรจัดร้อยละ 43.1 ประชาชนร้อยละ 55.7 ไม่เคยได้ยินคาถา 5 ย (อย่าแหย่, อย่าเหยียบ, อย่าแยก,
อย่าหยิบ, อย่ายุ่ง) หากพบสุนัขหรือแมวมีอาการคล้ายโรคพิษสุนัขบ้าจะแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร้อยละ 40.1
2 แนวทางการดำาเนินงานป้องกันควบคุม
โรคพิษสุนัขบ้า