Page 23 - BookYana_forebook
P. 23
ในปี พ.ศ. 2496 นายสมาน บุณยรัตพันธุ์ นายช่างโทรเลขได้สร้างเครื่องโทรพิมพ์ภาษาไทยได้ส าเร็จ
โดยคิดระบบกลไก หรือ Spacing Control Mechanism ต่อมาได้ประดิษฐ์เพิ่มเติมโดยให้เครื่องท างานได้ทั้ง
สองภาษา (ไทยและอังกฤษ) ให้ชื่อว่า เครื่องโทรพิมพ์ไทยแบบ S.P. โดยกรมไปรษณีย์โทรเลขรับรองเมื่อ
ปี พ.ศ. 2498 เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 กรมไปรษณีย์โทรเลขสั่งสร้างเครื่องโทรพิมพ์ไทยจากประเทศ
ญี่ปุ่น เข้ามาใช้งานเป็นรุ่นแรกระหว่างกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์-เชียงใหม่ หลังจากนั้นได้ใช้
เครื่องโทรพิมพ์ออกไปทั่วประเทศ
ปี พ.ศ. 2503 ได้มีการปรับปรุงบริการให้ทันสมัยโดยจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ เช่น เครื่องส่งและเครื่องรับ
วิทยุความถี่สูง เครื่องโทรพิมพ์ที่ใช้งานโทรเลขแบบต่างๆ เปิดการใช้งานรับส่งโทรเลขติดต่อกับต่างประเทศ
ด้วยวงจร HF1 ARQ โดยประเทศแรกที่ติดต่อด้วยวงจรนี้คือประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี พ.ศ.
2496 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้จัดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมขึ้นในจังหวัดและอ าเภอต่าง ๆ เป็นจ านวนทั้งสิ้น 50
สถานี จนกระทั่งพ.ศ. 2520 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้โอนส่วนปฏิบัติการให้บริการโทรคมนาคมของประเทศ
รวมถึงบริการโทรเลขไปอยู่ในความรับผิดชอบของการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจตั้งขึ้น
ใหม่ สังกัดกระทรวงคมนาคม ต่อมาปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลมีนโยบายที่ต้องการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจ เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการท างานให้เทียบเท่าภาคเอกชน ซึ่ง กสท.เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่ต้องด าเนินการตามนโยบาย
ดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 คณะรัฐมนตรีมีมติให้แปรสภาพ กสท. ตามแผนแม่บทพัฒนา
กิจการโทรคมนาคม และพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 แยกกิจการเป็น 2 บริษัท คือ บริษัท
ไปรษณีย์ไทย จ ากัด และบริษัท กสท โทรคมนาคม จ ากัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทเมื่อวันที่
14 สิงหาคม พ.ศ. 2546 โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จ ากัด ยังคงรับผิดชอบการให้บริการโทรเลขด้วย[1] และ
ยกเลิกบริการโทรเลข ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
10-22