Page 301 - รวมเล่ม บทที่ 1-252 Ebook
P. 301
89
แล ้วจึงปล่อยวางความรู้ แต่บางคนอาจจะใช ้ ความคิด
หรือกําลังธรรม นั้น เอาเอง ว่า ว่าง ว่าง ว่าง
เหลืออยู่แต่ความว่างแท ้ หรือ เอาตัวเองเดินลอดใต ้คาน ไป
ธรรมชาติแท ้ๆ ที่อายตนะหก ยังฝั่งตรงข ้าม
คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล ้วพูดแบบศรีธนญชัย ว่า นี่
สัมผัสไม่ได ้ ไงฉันข ้ามมาแล ้ว
ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของจิต ฉันผ่านมาเข ้าสู่ความว่างอีก
ที่ไม่มีการยึดปรุง ฯลฯ ฟากหนึ่งได ้แล ้ว
เปรียบเสมือน กีฬาการ ส่วนเรื่องเหตุใดต ้องปล่อย
กระโดดคํ้าถ่อ ความสูงของ วางกําลังธรรม หรือความรู้
คานที่สูงกว่าปกติ ก็เพราะว่า ถ ้ายังไม่ปล่อยวาง
นักกีฬา ก็ต ้องอาศัยไม ้คํ้าถ่อ ไม ้คํ้าถ่อ ไม ้คํ้าถ่อนั้นเอง จะ
กระโดดคํ้ายันถีบตัวให ้สูงขึ้น เป็นตัวที่กระทบกับคาน ทําให ้
ไป จนอยู่เหนือคาน แล ้วต ้อง คานนั้นหล่นลงสู่พื้น การ
ผลักทิ้งไม ้คํ้าถ่อนั้น กระโดดคํ้าถ่อนั้น ย่อมไม่
ทิ้งไป จึงจะลอยตัวข ้ามคาน สําเร็จ
สูงนั้นไปได ้
อนุมานเปรียบเทียบว่า ถ ้า
ฉันใดฉันนั้น การเข ้าสู่ความ เข ้าถึงความว่างแท ้แล ้ว
ว่างแท ้หรือธรรมชาติแท ้ ยังยึดปรุงอยู่กับตัวรู้ หรือกําลัง
ก็เปรียบเสมือนการข ้ามให ้พ ้น ธรรมนั้น
คานบนซึ่งสูงลิ่วนั้น ก็แสดงว่า ยังไม่ว่างแท ้ เพราะ
ไม ้คํ้าถ่อก็เปรียบเสมือนกําลัง ยังมีตัวรู้ให ้ยึดปรุงอยู่
ธรรมหรือตัวรู้ ตัวรู้นี้ เดิมเป็นตัวกําลังธรรม
ที่จะต ้องมีไว ้ใช ้ ประกอบการคํ้า ทําให ้กระโดดเข ้าสู่ความว่าง
ถ่อ ได ้ แต่พอจะว่างแท ้ กลับ
กลายเป็นตัวกีดขวาง
มิฉะนั้น ถ ้าไม่มี "ไม ้คํ้าถ่อ" ซึ่ง ไม่ให ้ว่างแท ้นั่นเอง
เปรียบเป็น "กําลังธรรม"
ก็ไม่สามารถกระโดดข ้ามผ่าน ดังที่มีคําคมเปรียบเปรย ว่า
ความสูงขนาดนั้นได ้ "เมื่อจับปลาได ้แล ้ว ก็ไม่ต ้อง
สนใจกับลอบอีก"

