Page 13 - งานนำเสนอ PowerPoint
P. 13

๒.๑ การร้องล าลอง  หมายความถึง  คนร้องร้องไปตามท านองของตน และดนตรีก็

    บรรเลงประกอบไปโดยใช้ท านองส่วนของตนต่างหาก แต่ทั้งคนร้องและคนบรรเลง จะต้อง


    ใช้ลูกฆ้องหรือเนื้อเพลงแท้ๆอย่างเดียวกัน เพียงแต่คนร้องบรรจุค าร้องลงไปตามลูกฆ้อง

    ส่วนนักดนตรีแปรลูกฆ้องเป็นท านองเต็ม (Full Melody) ให้เข้ากับเครื่องดนตรีที่บรรเลง


    เพลงที่ใช้ร้องล าลอง มักจะเป็นเพลงที่ฟังได้ไพเราะ เช่น เพลงเต่าเห่ เพลงช้าสร้อยสน


    เพลงตุ้งติ้ง เพลงกลองโยน เป็นต้น

    ๒.๒  การร้องคลอ  หมายความถึง  คนร้องร้องพร้อมไปกับดนตรี โดยผู้บรรเลงจะต้อง


    บรรเลงดนตรีให้เข้ากับทางร้อง เพื่อฟังได้กลมกลืน เพลงที่จะร้องคลอได้ไพเราะ จะเป็น

    เพลงจ าพวกเพลงสองชั้นธรรมดาทั่วไป


    ๒.๓  การร้องส่ง หรือการร้องรับ  หมายความถึง  คนร้องร้องขึ้นก่อน เมื่อจบแล้ว ดนตรี


    จึงรับด้วยลูกฆ้องเดียวกัน เพียงแต่ว่าการร้องนั้น ผู้ร้องถอดลูกฆ้องออกมาเป็นเอื้อน แต่

    ดนตรีถอดลูกฆ้องออกมาเป็นท านองเต็ม (Full Melody)   การร้องส่งหรือการร้องรับนี้


    ดนตรีจะต้องมีการสวมร้องด้วย เพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการร้องที่ช้า และการบรรเลง

    ที่ค่อนข้างรวดเร็ว และเพื่อความกลมกลืนในการบรรเลงด้วย


    ๒.๔  การร้องเคล้า  หมายความถึง  คนร้องร้องไปตามท านองเพลงของตน ส่วนดนตรีก็


    บรรเลงประกอบไปโดยใช้ท านองส่วนของตน คล้ายๆกับการร้องล าลอง แต่การร้องเคล้านี้

    ดนตรีกับร้องเป็นคนละอย่างกัน แต่เมื่อร้องกับดนตรีเคล้าประสานกันแล้ว ท าให้มีความ


    ไพเราะเป็นอย่างยิ่ง
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18