Page 197 - จิตรกรรมปริศนาธรรมภาคใต้
P. 197
“ฝนตกซัดสําด ห้วงน้ําท่วมใจ”
จากภาพแสดงถึงการตีความปริศนาธรรมจากเพลงกล่อมเด็กของภาคใต้
“ฝนตก...เห้อ ตกมาคักคัก อย่าเล่นน้านัก น้าแทงเข้าไป ถ้าเข้ขบเจ้า จะเล่าความถึงใคร น้าแทงเข้าไป เลือดไหลท่วมคลอง..เห้อ”
∞ ห้วงน้ํา หมายถึง โอฆะทั้ง 4 ได้แก่ กาม ภพ ทิฐิ อวิชชา คาว่า“โอฆะ” แปลว่า ห้วงน้า เป็นห้วงน้าใหญ่ ที่ซัดพาสิ่งที่ตกลงไปในกระแสน้าทาให้เกิดอันตราย เม่ือใจคนที่ถูกวังวน คือ กิเลสพัดพาไปก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกับ โอฆะ 4 ประเภท ได้แก่
1) กาโมฆะ โอฆะ คือ กาม ได้แก่ โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์
2) ภโวฆะ โอฆะ คือ ภาพ ได้แก่ ความใคร่ในความมีความเป็น เพราะความฝังใจว่า ยศตาแหน่งฐานะน้ัน เป็นภาวะท่ีนาความสุขทั้งในกาลปัจจุบัน และอนาคต ก็จะมีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน
3) ทิฏโฐฆะ โอฆะ คือ ทิฐิ แปลว่า ความเห็นท่ีไม่ดี เห็นว่าทาดีไม่ได้ดี ทาช่ัวไม่ได้ช่ัว ตรงกับความเห็นผิดทาให้ หลงใหลในอานาจทิฐิ
4) อวิชโชฆะ โอฆะ คืออวิชชา ความเขลาไม่รู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งทั้งหลาย คือความไม่รู้จริงในทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค การท่ีไม่รู้ธรรมท้ังหลาย เม่ือถูกห้วงน้าอวิชชาพัดพาไปจะเป็นคนท่ีมีความหลงผิด ความมัวเมาไร้เหตุผล แกร่งแย่ง เห็นแก่ตัวอยู่ในโลกสังสารวัฏ จะมีความทุกข์กาย-ใจ เกิดอันตราย ขาดอิสรภาพท้ังปัจจุบัน และอนาคต
กิเลสทาให้เกิดนันทิความรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินที่ผู้คนหลงในน้าฝน หลงเพลินอยาก ยึดหลง (อุปาทาน) ในน้าเมา น้ากาม ภพ ทิฐิ อวิชชา เข้าไปลงเล่นจนลืมว่ามีอันตรายซุกซ่อนอยู่พร้อมที่จะ ขบกัด เหมือนจระเข้ร้าย มีเขี้ยว แหลมคม พร้อมที่จะทาร้ายคนที่มีความหลงผิดลงไปเป็นเหย่ือเล่นห้วงน้าน้ี
∞ ฝนคือกิเลส: กิเลสวุฏฐิ เกี่ยวกับฝนนี่ มีเร่ืองอยู่ในพระบาลี มีคาท้าทายต่อฝน บอกว่า “ฝนเอ๋ยแกจะตก กต็ กลงมาเถดิ เรอื นของฉนั มงุ ดแี ลว้ มคี า กลา่ วอยา่ งนี้ ภกิ ษทุ กุ องคม์ งุ เรอื นของตวั เปน็ อยา่ งดี คอื คมุ้ ครองจติ ใจ เปรยี บจติ ใจ เหมือนกับเรือน ถ้ามีวัตรปฏิบัติคุ้มครองจิตใจเป็นอย่างดี ด้วยสมาธิ สมถภาวนา วิปัสสนา นี่คือมุงหลังคาเรือนเป็นอย่างดี ร้องทา้ทายฝนคอืกเิลสวา่ฝนเอย๋แกจะตกกต็กลงมาเถดิเรือนของฉนัมงุดีแลว้อย่างน้ีนเี่ดยี๋วนเี้ราได้ทากนัอยา่งนห้ีรอืเปลา่ หรือทาได้หรือเปล่า”
ภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ทาได้อย่างนี้หรือเปล่า คืออาจจะร้องท้าฝนว่าตกลงมาเถิด เรือนของฉันมุงดีแล้ว ก็หมายความว่าไอ้อารมณ์ทั้งหลาย ที่น่าปรารถนาชวนให้รักชักให้ใคร่ พอใจให้กาหนัดยินดีมี 5 ชนิด คือ รูป (สิ่งท่ีตา มองเห็น) เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (ส่ิงที่กายสัมผัส) กามคุณ 5 นี้เป็นอารมณ์ คือส่ิงท่ียึดดึงใจให้ปรารถนาให้รักใคร่ เป็นต้น จงึ เรยี กวา่ “กามารมณ”์ อารมณท์ างตา อารมณท์ างหู อารมณท์ างจมกู อารมณท์ างลนิ้ อารมณท์ จ่ี ะมากระทบผวิ หนงั อารมณ์ ที่จะมากระทบจิต ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ก็ให้มันระดมเข้ามาเถิด เรือนของฉันมุงดีแล้ว มีสติ
187