Page 25 - จิตรกรรมปริศนาธรรมภาคใต้
P. 25
บทท่่ีี 1 ปริศนําธรรมในจิตรกรรมฝําผนังของสมัยศิลปะรัตนโกสินทร์
ปริศนาธรรมในสมัยศิลปะรัตนโกสินทร์ช่วงรัชกาลท่ี 1-9 สร้างสรรค์จาก “อุดมคติ” สู่แบบ “ความเป็นจริง” ซึ่งเป็นการตีความจากหลักธรรมคาสอนของพระพุทธเจ้าที่ปรากฏในภาคใต้ ดังเช่น วันโพธิ์ปฐมาวาส วัดโคกเคียน วดั ชลธาราสงิ เห เปน็ ตน้ ซงึ่ มอี ทิ ธพิ ลจากชา่ งหลวงภาคกลาง โดยมตี น้ แบบจากวดั บวรนเิ วศวหิ ารของขรวั อนิ โขง่ เขยี นขน้ึ ใน รัชกาลที่ 4 โดยมีรูปแบบที่หลากหลายในภาพปริศนาธรรม ดังเช่น รูปแบบศิลปะจีน รูปแบบศิลปะตะวันตก รูปแบบศิลป วฒั นธรรมศาสนาพราหมณแ์ ละชวา รปู แบบศลิ ปวฒั นธรรมอสิ ลามและรปู แบบศลิ ปะทอ้ งถนิ่ ภาคใต้ สง่ ผลกบั การแสดงออก เทคนิคเชิงช่างที่มีการผสมผสานหลากหลาย แต่มีเนื้อหาตามหลักธรรมคาสอนของพระพุทธศาสนา เช่น ปฏิจจสมุปบาท ธุดงค์ 13 อสุภะ 10 ไตรภูมิ ไตรลักษณ์ วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ โดยในแต่ละแนวเรื่องจะแฝงนัยคติความเช่ือ ทาให้เกิด ความศรัทธา และเป็นศูนย์รวมจิตใจ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน จะนาไปสู่ความสุข สงบ สันติสุขและความสามัคคี ของคนในภาคใต้
1.1 ปริศนําธรรมสมัยศิลปะรัตนโกสินทร์
ช่วงศิลปะรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 1-3 เนื้อหาที่ช่างได้เขียนภาพจะนิยมแสดงออกในเรื่องพุทธประวัติของ พระพุทธเจ้าและทศชาติเป็นส่วนใหญ่ดังปรากฏในภาพจิตรกรรมฝาผนังพระท่ีนั่งพุทไธสวรรค์ วัดสุวรรณรามวรวิหาร แสดงออกถงึ ผลงานจติ รกรรมฝาผนงั ทมี่ คี วามรงุ่ เรอื งเฟอ่ื งฟู ทมี่ กี ารประชนั ฝมี อี กนั เชน่ อาจารยท์ องอยู่ (หลวงวจิ ติ รเจษฏา) และอาจารย์คงเเป๊ะ ถือว่าเป็นผลงานที่แสดงถึงความก้าวหน้าจุดสูงสุด และภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดสุทัศน์เทพวราราม และมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงรัชกาลที่ 4 งานจิตรกรรมฝาผนังเริ่มมีอิทธิพลตะวันตกเข้ามาเจือปน ทาให้งานจิตรกรรม ฝาผนังคลี่คลายแบบอย่างจาก “อุดมคติ” มาสู่แบบ “ควํามเป็นจริง” ดังน้ันภาพผลงานรูปแบบ 3 มิติของอาจารย์ขรัว อนั โขง่ หรอื อาจารยอ์ นิ แหง่ วดั เลยี บ (วดั ราชบรู ณะ) ถอื วา่ เปน็ ผบู้ กุ เบกิ ผลงานแนวใหมท่ เ่ี ขยี นภาพปรศิ นาธรรมในพระอโุ บสถ วัดบวรนิเวศวิหารและวัดบรมนิวาสกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีบทบาทท่ีสาคัญทางพระพุทธศาสนาในการเผยแพร่หลักธรรม คาสอนของพระพุทธเจ้า จนถึงปัจจุบัน โดยให้อิทธิพลรูปแบบ เทคนิคเชิงช่าง เนื้อหาสาระกับจิตรกรรมฝาผนังในภาคใต้
“พุทธศาสนา” เป็นแหล่งคาสอนสาคัญอย่างหน่ึงในสังคมสยามท่ีมีส่วนกาหนดกรอบความเช่ือ ความรู้ วิถีชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ศิลปะ กระทั่งเมื่อมีการปฏิรูปพุทธศาสนาในนาม “ธรรมยุติกนิกาย” ขึ้นในสมัย รชั กาลที่ 3 ซง่ึ มพี ระวชริ ญาณเถระหรอื ตอ่ มาคอื พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 4 ทรงเปน็ ผนู้ า การปฏริ ปู
15