Page 24 - การวิจัยทางศิลปะ
P. 24
16
การวิจัยทางศิลปะ บทที่ 1
ที่สนใจที่จะศึกษาวิจัยในหัวข้อนั้น เขียนโครงการเข้ามาให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณา เพื่อรับทุน สนับสนุนการวิจัยนั้น ๆ
6) หน่วยงานของผู้วิจัย หน่วยงานบางหน่วยงานมีหน้าที่ท่ีจะต้องทางานวิจัย เชิงพื้นที่ มักจะมีแผนงานกาหนดไว้อย่างชัดเจนว่าในรอบระยะเวลาหนึ่งๆ จะทาวิจัยในหัวข้อใดบ้าง หน่วยงานจึงเป็นผู้กาหนดหัวข้อให้ผู้วิจัยที่สนใจนาเสนอหัวข้อวิจัยตามหน่วยงานที่กาหนด
1.4.3 การกาหนดหัวข้อการวิจัยทางศิลปะ
สิ่งที่เป็นปัญหาแรกสาหรับผู้ที่จะทาวิจัยก็คือจะต้องกาหนดเรื่องที่จะทาการวิจัย เพราะถา้ ผทู้ า วจิ ยั สามารถกา หนดหวั ขอ้ ไดช้ ดั เจน เหมาะสม กเ็ ปน็ การเรมิ่ ตน้ ทดี่ ี และเปน็ ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ ความก้าวหน้าของการดาเนินงานวิจัย การกาหนดหัวข้อการวิจัย อาจมีที่มาได้หลายแนวทาง เช่น การเห็นปัญหาและความสาคัญที่เกิดขึ้นในวงการศิลปะและอยากค้นคว้าหาคาตอบ หรือการวิจัย เพื่อพัฒนางานศิลปะท่ีมีอยู่เดิมให้ดีขึ้น หรืออยากค้นคว้าหาคาตอบจากงานศิลปกรรมที่เกิดในอดีต หรอื อยากคน้ ควา้ พฒั นาวจิ ยั สรา้ งสรรคเ์ พอื่ ใหเ้ กดิ องคค์ วามรู้ แนวคดิ แนวทาง นวตั กรรมใหมใ่ นอนาคต
หลักเกณฑ์ในการกาหนดหัวข้อการวิจัย นักวิจัยจะทาการศึกษา ค้นคว้า แสวงหา เรื่องราว และองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อกาหนดหัวข้อในการทาวิจัย โดยจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ ความสาคัญของหัวข้อ • ความสนใจของผู้วิจัย • มีความเป็นไปได้ • ปัญหาต่างๆ ที่กาลังเกิดขึ้น • การขยายขอบเขตหรอื รายละเอยี ดตามกระบวนการวจิ ยั โดยมเี กณฑก์ ารพจิ ารณาการเลอื กหวั ขอ้ ดงั นี้
เกณฑ์ที่ใช้พิจารณาการเลือกหัวข้อวิจัยทางศิลปะ
การเลือกหัวข้อประเด็นปัญหาวิจัยเป็นจุดเริ่มต้นของการวิจัยที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ ผู้วิจัยจะต้องรู้จักเลือกหัวข้อปัญหาที่เหมาะสมกับความสนใจของผู้วิจัย หัวข้อปัญหาวิจัยที่ดีควรจะ เป็นประเด็นปัญหาที่มีลักษณะดังนี้
1. มีความสาคัญและมีคุณค่า หัวข้อประเด็นปัญหาที่มีความสาคัญและมีคุณค่า จะต้อง มีกระบวนการหาคาตอบให้ได้คุณภาพตามระเบียบวิธีวิจัย เกิดผลการวิจัยที่มีประโยชน์ ทั้งในแง่ของ การได้มาซึ่งความรู้ใหม่และเป็นการเพิ่มพูนองค์ความรู้ให้กับศาสตร์นั้นๆ ให้สมบูรณ์และเกิดคุณค่า ทางศิลปะตามกระบวนการวิจัย
2. เป็นประเด็นปัญหาที่จะค้นหาคาตอบได้ด้วยวิธีการวิจัย คือสามารถจะหาหลักฐาน ข้อมูลเชิงประจักษ์มาอ้างอิงในการตอบปัญหานั้นได้ ไม่ใช่ปัญหาเชิงค่านิยมหรือเชิงจริยธรรม เช่น ควรให้นักศึกษาสวมเครื่องแบบมาเรียนหรือไม่ ปัญหาลักษณะนี้อาจปรับให้เป็นปัญหาวิจัยได้ว่า นักศึกษาที่สวมเครื่องแบบมาเรียนจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักศึกษาที่ไม่สวมเครื่องแบบ มาเรียนหรือไม่

