Page 141 - ตามรอยพระศาสดา
P. 141

140


               มุ่งประโยชน์ที่จะตรัสรู้ในธรรมทั้งปวง หวังจะให้สัตว์โลกพ้นจาก

          เวียนว่ายตายเกิด และถ้าศีลของอาตมามิได้ขาด หรือด่างพร้อยยังบริสุทธิ์
          ดีอยู่  ก็ขอให้บาตรทรงของพระบรมศาสดาจงลอยลงมาประดิษฐานอยู่ใน
          มือของอาตมา ณ บัดนี้เถิด”

               จบค�าอธิษฐาน บาตร ซึ่งปราศจากจิตวิญญาณก็ลอยลงมาจาก

          ท้องฟ้า  ตกลงในมือของพระอชิตภิกษุ เป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

               พระมหาปชาบดีทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์โดยตลอด มีพระปีติ
          โสมนัสยิ่งนัก  ทรงพระด�าริว่า เพียงแต่พระนวกะยังกอปรด้วยพระคุณวิเศษ

          เห็นปานนี้ แล้วพระมหาเถระผู้ทรงพระอภิญญาวิธี มีพระสารีบุตร  แลพระ
          โมคัลลานะ  จะมิยิ่งประเสริฐเลิศล้นยิ่งขึ้นไปอีกหรือ  ก็บังเกิดศรัทธาปสาทะ
          จนน�้าพระเนตรตก  ยกพระหัตถ์ประณตนมัสการพระศาสดา แล้วเสด็จ

          กลับพระราชนิเวศน์สถาน

               ส่วนพระอชิตภิกษุ เมื่อเห็นพระนางปชาบดีเสด็จกลับไปแล้ว
          จึงจินตนาการว่าผ้าอันงามเลิศสุดวิเศษนั้นไม่สมควรจะมาห่อหุ้มกายของ

          ท่านซึ่งยังอยู่ในข่ายของชราพยาธิ  ต้องเวียนว่ายตายเกิด

               น่าจะเหมาะแก่ผู้เห็นกายเป็นอนัตตาหาประโยชน์แก่นสารมิได้
          มากกว่า เมื่อพระอชิตภิกษุคิดเช่นนั้นแล้ว จึงถือเอาผ้าผืนหนึ่งเข้าไปใน

          พระคันธกุฎีแล้วคาดเป็นเพดาน ส่วนอีกผืนหนึ่งนั้นฉีกออกเป็น ๔ ท่อน
          ผูกประดับเป็นม่านห้อยลงมาทั้ง ๔ มุมของเพดานนั้น

               เมื่อประดับตกแต่งเสร็จแล้ว ได้ยืนพิจารณาดูก็เห็นว่างามยิ่งนัก จึง

          ออกวาจาว่า







                                  ตามรอยพระศาสดา
   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146