Page 137 - ตามรอยพระศาสดา
P. 137
136
ดังสีทองดอกกรรณิการ์แล้ว พระมหาปชาบดีก็ทรงเก็บฝ้ายนั้นด้วย
พระหัตถ์ แล้วใส่ลงในผอบทอง และทรงเลือก ทรงหีบ ทรงดีด ทรงปั่น
ด้วยพระหัตถ์มิให้ผู้อื่นกระท�า
เส้นด้ายนั้นละเอียดยิ่งนัก มีสีเหลืองดุจทอง จึงให้หามาซึ่งช่างหูก
ฝีมือเอก ให้บริโภคซึ่งประณีตโภชนาหาร อันระคนด้วยจตุมธุรส แล้วให้
ตกแต่งกายนุ่งห่ม ประดับด้วยวัตถาลังกาอาภรณ์ต่าง ๆ
ยกมาพอให้เห็นว่าพระมหาปชาบดีโคตมีตั้งพระทัยอย่างที่สุด ซึ่ง
ยากที่จะท�าได้ ทอแล้วได้สองผืนใหญ่ กว้างผืนละ ๗ ศอก ยาว ๑๔ ศอก
น่าจะเป็นผ้าคู่แรกและคู่เดียวในโลกที่วิธีการท�าพิเศษพิสดารเช่นนี้
กล่าวโดยสรุป พระมหาปชาบดีโคตมีพับผ้าอันประมาณค่ามิได้ ทั้ง
สองผืนใส่ในผอบแล้วยกขึ้นทูนบนพระเศียร เสด็จไปพร้อมด้วยนางศากยราช
ทั้งหลาย เพื่อถวายผ้านั้นแด่พระศาสดา ณ นิโครธารามได้ทูลถวายถึง ๓
ครั้ง แต่พระศาสดาก็ยังไม่ทรงรับ ท�าให้เสียพระทัย โทมนัสเป็นอันมาก จึง
เสด็จไปยังส�านักพระอานนท์ ถวายอัญชลีแล้วตรัสวิงวอนว่า
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ามีโทษอย่างไรหรือ พระศาสดาจึง
ไม่ทรงรับภูษาที่ข้าพเจ้าดีดปั่นฝ้ายด้วยมือของตนเอง เพื่ออุทิศถวายแด่
พระพุทธองค์โดยเฉพาะเช่นนี้ ขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าช่วยอนุเคราะห์
ทูลถามพระศาสดาให้ทราบเหตุด้วยเถิด”
พระอานนท์รับอาราธนาไปกราบทูลพระศาสดาตามค�าขอร้อง
ของพระนางปชาบดีโคตมี พระพุทธองค์จึงตรัสถึงเรื่องการถวายเป็นส่วน
ปาฏิปุคคลิก คือถวายเจาะจงบุคคล ไม่ใช่ถวายแด่สงฆ์
สรุปว่า เมื่อพระนางได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้ว มีความปรีดา
ปราโมทย์ ถือภูษาทั้งคู่เข้าไปใกล้พระสารีบุตร ซึ่งนั่งอยู่เบื้องขวาพระศาสดา
ตามรอยพระศาสดา