Page 176 - ตามรอยพระศาสดา
P. 176
175
พระอานนท์จัดเสร็จแล้วนิมนต์ให้ไสยาสน์ พระพุทธเจ้าลงบรรทม
บนอาสน์นั้น นอนแบบสีหไสยาสน์ คือ นอนตะแคงข้างขวา (เอาไหล่
ขวาลง) หันพระเศียรไปทางทิศเหนือ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีพระสติ
สัมปชัญญะก�าหนดว่า ตั้งแต่นาทีนี้ไป จะมิลุกขึ้นอีก
ขณะนั้นไม้สาละทั้งสิ้นในสวนนั้น ก็ผลิดอกออกมาตั้งแต่โคนต้น
จนถึงยอด บานแล้ว ร่วงตกลงมา เกิดดอกอ่อนขึ้นแทนที่ แล้วบานอีกร่วงอีก
ติดต่อกัน เรื่อยไปเสียงดังเผาะแผะ เหมือนน�้าตาร่วงลงมาจากดวงตา
ของต้นไม้ไม่ขาดสาย แม้ว่าดอกไม้แห่งต้นอื่น ๆ ก็มีดอกเต็มต้นโดยมิใช่
ฤดูกาลเช่นเดียวกัน เป็นการกระท�าพุทธบูชาครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งธรรมชาติ
ปรุงแต่งขึ้นถวาย กลิ่นดอกไม้หอมตลบไปทั้งสวน และไม่มีใครสามารถ
จะเรียกได้ว่ากลิ่นดอกอะไร เพราะเป็นกลิ่นผสมหอมหวานชื่นใจที่สุดที่เคย
มีมา กลิ่นนี้จะขจายขจรไปไกลเท่าใดก็ไม่มีใครรู้ น�าฝูงผึ้งและแมลงต่าง ๆ
มาสู่อุทยาน ปานประหนึ่งว่า สวนทั้งสวนเป็นรังของมัน เสียง หึ่ง หึ่ง แซ่
ไปเหมือนคนร้องไห้มากกว่าจะฟังเพราะเป็นเพลงสวรรค์อย่างวันอื่น ๆ
พระอาทิตย์ดูดังว่าตกช้ากว่าทุกวัน เรรวนจะไม่ยอมลับยอดเขาเสีย
ให้ได้ แผ่แสงสีแดงจ้าเหมือนสีเลือดเต็มทั่วท้องฟ้า เมื่อผสมผสานเข้ากับ
น�้าตาของต้นสาละที่หล่นเผาะแผะ เสียงร้องไห้ระงมของผึ้งป่า ภาพเย็นวันนี้
ณ สาลวันอุทยาน จึงเป็นภาพน่าสังเวชสลดใจมากกว่าภาพร่าเริงยินดี
ธรรมชาติยังรวมกันเศร้า เพราะจะสูญเสียพระบรมครูของโลก ก็
มนุษย์ปุถุชนจะเดือดร้อนเสียดายแค่ไหนนั้น พญายมเท่านั้นจะพรรณนาถูก
ภิกษุ ๕๐๐ นั่งนิ่ง ล้อมรอบพระพุทธองค์เป็นปกติ เพราะทุกองค์
เป็นพระขีณาสพ ท่านไม่ร้องไห้ ไม่พูดเพ้อร�าพัน เพราะท่านรู้แน่ว่า
ความตายเป็นของแน่นอนที่จะติดตามกับร่างกายของเราท่าน ตั้งแต่วันเกิด
ตามรอยพระศาสดา