Page 177 - ตามรอยพระศาสดา
P. 177

176


          ทุกคนทุกชั้นวรรณะต้องตายจากไป แต่ท่านก็ยังสังเวชสลดใจ เพราะโลก

          ต้องเสียพระบรมครูอันประเสริฐยิ่ง  ซึ่งโลกไม่เคยสูญเสียอะไรมากกว่าที่
          ก�าลังจะเสียไป

               เมฆด�าตั้งครึ้มทางทิศตะวันตก แล้วอากาศสลัวลงไป บางคราว
          ฟ้าแลบแปลบปลาบ เสียงค�ารามแต่ไกลดุจเตือนมนุษย์ให้รู้ตัวว่า กาลลิโยค

          คืบคลานเข้ามาแล้ว

               ลูกอุกกาบาตตกลงมาทุกทิศ หวามวาบเหมือนก้อนถ่านเพลิงร่วง
          เป็นเครื่องหมายว่า โลกต่อไปจะร้อนระอุ อหิงสาความไม่พยาบาทในกัน

          และกัน แห่งมวลมนุษย์โลกก�าลังพ่าย หิงสาความเคียดแค้นเบียดเบียน
          ต่อกันจะเริ่มบทบาทของมันอีก

               พระพุทธเจ้าได้เห็นการบูชาพระองค์ของธรรมชาติจึงตรัสแก่

          พระอานนท์ว่า “ผู้ใดบูชาตถาคตด้วยอามิสบูชา (บูชาด้วยของมีดอกไม้ ธูป
          เทียน หรือถวายอาหาร จีวร เสนาสนะ เป็นต้น) เป็นอันมากบุคคลผู้นั้น
          ไม่จัดว่าได้กระท�าสักการบูชาแท้  ถ้าผู้ใดปฏิบัติในธรรมของตถาคต  ผู้นั้น

          ได้ชื่อว่าบูชาในตถาคต” แล้วตรัสว่า จะปรินิพพานในที่สุดแห่งคืนนี้

                 ทันใดนั้นพระอานนท์ก็ปล่อยโฮด้วยการร้องไห้ เพราะพระอานนท์
          ขณะนั้นตั้งอยู่ในพระโสดาปัตติผลเท่านั้น หาใช่พระอรหันต์ไม่


               พระอานนท์ทูลว่า “ขอพระองค์อย่าปรินิพพานในเมืองนี้ เพราะเป็น
          เมืองเล็กเมืองดอน  พระนครใหญ่ ๆ เช่น ราชคฤห์ สาเกต สาวัตถี โกสัมพี
          พาราณสี นั้นควรเสด็จไป เพราะที่นั้นมีกษัตริย์  พราหมณ์ คหบดี เป็น

          อันมาก ล้วนแต่ศรัทธาในพระศาสดาทั้งสิ้น จะได้กระท�าพุทธบูชาพระศพ
          เป็นโอฬาริกบูชา”





                                  ตามรอยพระศาสดา
   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182