Page 180 - ตามรอยพระศาสดา
P. 180
179
เสียงโต้เถียงกันได้ยินไปถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่
พระอานนท์ว่า “ท่านอย่าห้ามสุภัททะเลย ตถาคตอุตส่าห์มาถึงกุสินารา
ก็เพราะตั้งใจจะมาโปรดสุภัททะปล่อยให้เข้ามาเถิด” พระอานนท์จึง
บอกสุภัททะเข้าไปในม่าน เมื่อสุภัททะเข้าไปใกล้พระสัพพัญญูแล้ว นั่งลง
ทูลถามปัญหาทันทีว่า “ท่านสมณโคดม สมณพราหมณ์ ทั้งปวง และครู
ทั้ง ๖ มีครูปูรณกัสสปะ เป็นต้น อ้างว่าเป็นสมณะ เขาเหล่านั้นปฏิบัติลัทธิ
เหมือนกับลัทธิของท่านหรือไฉน หรือบางพวกถือตรงกัน บางพวกถือผิดกัน
เมื่อผิดไป อาจยกตนให้พ้นจากวัฏสงสารได้หรือไม่ (คือ ไม่เกิด แล้วตาย
ตายแล้วเกิดอีก)
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “สุภัททะ ท่านอย่าถามถึงลัทธิเดียรถีย์อื่น ๆ
เลย ตั้งใจฟังธรรมกถาของตถาคตดีกว่า อันว่าธรรมปฏิบัติในธรรมวินัยนี้
มีองค์แปด เริ่มด้วยสัมมาทิฐิเป็นข้อต้น สัมมาสมาธิเป็นอวสาน ผู้ใดตรัสรู้ใน
มรรคมีองค์แปดแล้ว ก็จะได้ซึ่งพระโสดาปัตติผลเป็นปฐมสมณะ ได้พระ
สกทาคามิผล เป็นทุติยสมณะ ได้อนาคามีผล เป็นตติยสมณะ ได้พระอรหันต์
เป็นจตุตถุสมณะ สุภัททะ อันว่าภิกษุทั้งหลายนี้ประพฤติเป็นสัมมาปฏิบัติ
ได้ชื่อว่าโลกไม่สูญจากพระอรหันต์ จ�าเดิมแต่วันตถาคตบรรพชาจนได้
ส�าเร็จพระปรินิพพาน ค�าที่กล่าวว่า โลกเปล่าจากสมณะเป็นไม่มี สมณะอื่น
นอกพุทธศาสนา จะได้มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ เหมือนดังนี้หามิได้
และไม่อาจยกตนให้พ้นจากวัฏสงสารได้”
สุภัททะ ได้ฟังพระธรรมเทศนา มีใจปีติโสมนัสกราบทูลว่า
“ธรรมที่พระองค์แสดงนี้ประเสริฐยิ่ง ข้าพระองค์เป็นพาลมาช้านาน
ไม่ได้ฟังธรรมที่ดี ข้าพระองค์ขอบรรพชา” พระพุทธเจ้าสั่งให้พระอานนท์
บรรพชาให้แล้วตรัสบอกพระกรรมฐานให้ภาวนา พระสุภัททะพิจารณา
ตามรอยพระศาสดา