Page 15 - คู่มือยุทธวิธีตำรวจ 2561
P. 15
12
4. ด้ำนพื้นที่ส่วนที่ห้ำ ซึ่งอยู่ท้ำยมีรถยนต์ส ำหรับควบคุมผู้กระท ำผิดจอดเฉียงท ำมุม 45 องศำ
ที่บริเวณช่องทำงเดินรถด้ำนเลี้ยวซ้ำยผ่ำนตลอดไว้ เพื่อก ำหนดให้มีพื้นที่ที่จะควบคุมผู้กระท ำผิดและส ำหรับ
จอดยำนพำหนะที่จะต้องท ำกำรตรวจค้นอย่ำงละเอียดไว้ในบริเวณดังกล่ำว โดยมีรถยนต์ส ำหรับควบคุมซึ่งเป็น
รถยนต์ขนำดใหญ่ก ำบังและให้ควำมปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติและบริเวณดังกล่ำวจะไม่มียำนพำหนะที่ไม่เกี่ยวข้อง
นอกจำกที่ต้องท ำกำรตรวจค้นอย่ำงละเอียด หรือที่ต้องกำรจะตรวจยึดไว้ผ่ำนเข้ำมำ
5. ให้น ำรถยนต์สำยตรวจซึ่งเปิดสัญญำณไฟวับวำบไปจอดไว้บริเวณป้อมสัญญำณไฟจรำจรที่มี
เจ้ำหน้ำที่จรำจรควบคุมสัญญำณกำรจรำจร เพื่อให้เป็นจุดสังเกตและอยู่ในทิศทำงที่มองเห็นกำรปฏิบัติในพื้นที่
ส่วนที่ห้ำซึ่งมีกำรควบคุมผู้กระท ำควำมผิดและมีกำรตรวจค้นยำนพำหนะเพิ่มเติมอย่ำงละเอียด ในส่วนที่อยู่
ทำงตรงข้ำมกับที่จอดรถยนต์ไว้ เพื่อให้สำมำรถแจ้งสกัดจับหรือติดตำมจับกุมผู้ที่หลบหนีจำกกำรตรวจในพื้นที่
ส่วนที่ห้ำได้ในหลำยทิศทำงด้วย
กำรตั้งจุดตรวจค้นทำงร่วมแยก (ด้ำนหน้ำ)
6. กำรปฏิบัติของเจ้ำหน้ำที่ให้ก ำหนดทิศทำงกำรตรวจ โดยเดินตรวจจำกด้ำนท้ำยของส่วนกำรตรวจ
ซึ่งอยู่บริเวณสี่แยกไปจนสุดที่บริเวณส่วนหน้ำที่เป็นส่วนเริ่มซึ่งมีป้ำยสัญญำณเตือนว่ำเป็นจุดตรวจตั้งไว้หรือให้
เดินตรวจจำกกรวยยำงสีสะท้อนแสงที่วำงอยู่จำกจุดแรกไปจนถึงกรวยยำงสุดท้ำยที่วำงไว้(ไม่น้อยกว่ำ 30
เมตร) เมื่อสิ้นสุดให้ฝั่งที่ตรวจด้ำนขวำเดินขึ้นไป ฝั่งเกำะกลำงถนนด้ำนขวำ ส่วนฝั่งด้ำนซ้ำยให้เดินขึ้นฟุตบำท
ทำงเดินด้ำนซ้ำยแล้วย้อนกลับไปเริ่มตรวจที่บริเวณสี่แยกอีกรอบ เมื่อได้รับสัญญำณไฟจรำจรจำกเจ้ำหน้ำที่ที่
ควบคุมสัญญำณไฟจรำจร
7. กำรปฏิบัติของเจ้ำหน้ำที่ ต้องใช้ควำมรวดเร็วในกำรสังเกตและกำรปฏิบัติโดยก ำหนดให้สลับหน้ำที่
กัน ในกำรตรวจค้นยำนพำหนะคันถัดไปให้ผู้ท ำหน้ำที่ตรวจค้นสลับเป็นผู้คุ้มกันในคันที่จอดอยู่ต่อไป เพื่อไม่ให้
เกิดปัญหำในกำรตรวจและมียำนพำหนะตกค้ำงอยู่ในบริเวณพื้นที่ส่วนที่สำมซึ่งเป็นพื้นที่ตรวจค้น เมื่อได้รับ
สัญญำณไฟให้ผ่ำนแยกไปได้ทั้งหมด จึงต้องให้สลับหน้ำที่ในกำรปฏิบัติและหำกพบบุคคลหรือยำนพำหนะต้อง
สงสัยให้น ำไปบริเวณด้ำนซ้ำยของพื้นที่ส่วนที่ห้ำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหำกระทบกับจรำจรบริเวณที่มีกำรตั้งจุดตรวจ
ค้น