Page 21 - คมองานบรหาร_Neat
P. 21
17
ก็จะต้องให้การไฟฟ้าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาด าเนินการติดตั้งหลอดไฟฟ้าเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้เพียงพอ
หรือบริเวณใดที่เป็นที่รกร้างว่างเปล่า ต้นไม้ขึ้นหนาทึบบดบังการมองเห็น สามารถเป็นที่ซ่อนเร้นของคนร้ายได้
ก็จะต้องขจัดสภาพแวดล้อมดังกล่าวให้หมดสิ้นไป โดยการประสานให้ส านักงานเขต หรือฝ่ายปกครองให้มาเป็น
ผู้ด าเนินการดังกล่าวให้เรียบร้อย
มาตรการที่ 5 คือ การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการป้องกันอาชญากรรม เทคโนโลยีนั้น
มีประโยชน์และความส าคัญต่อระบบการป้องกันภัยเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น กล้องวงจรปิด ถือว่า
เป็นสิ่งที่ใช้ในการเฝ้าระวังป้องกันภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถจับภาพความเคลื่อนไหวของสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งในที่สาธารณะและที่ส่วนตัว ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ส่งผลให้คนร้ายนั้นเกรงกลัวหรือไม่กล้าที่จะลงมือท า
ความผิด สัญญาณเตือนภัยต่าง ๆ การใช้เทคโนโลยีในการติดตามจับกุมคนร้ายด้วยระบบ GPS หรือเทคโนโลยี
อื่น ๆ ในการป้องกันอาชญากรรม ไม่ว่าจะเป็นกรณีการคุ้มครองทรัพย์สินที่มีค่าใด ๆ ก็ตาม ซึ่งในต่างประเทศ
ก็ให้ความส าคัญกับการใช้เทคโนโลยีและสามารถน าไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ในประเทศอังกฤษ มีการติดตั้งและ
ใช้กล้องวงจรปิดทุกหนทุกแห่ง และในบางที่ก็มีข้อความแจ้งเตือนไว้ด้วยว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่ควบคุมโดยวงจรปิด
อันนี้เป็นอีกวิธีการหนึ่งในเรื่องการสร้างความอบอุ่นใจให้กับคนดี ในทางกลับกันก็สร้างความหวั่นไหวให้กับ
คนร้ายเพราะว่าถ้าคนร้ายเห็นป้ายแสดงข้อความหรือสัญลักษณ์เหล่านี้ก็จะรู้สึกหวาดกลัว เกรงว่าถ้าหากท าผิด
ไปแล้วอาจจะถูกจับกุมได้ ซึ่งต่างจากคนดีหากเห็นข้อความเดียวกันนี้ก็จะมีความรู้สึกอบอุ่นใจและมั่นใจ
ในความปลอดภัยของตัวเองเพราะว่ามีระบบการป้องกันภัยใช้อยู่
ขั้นตอนที่ 4 การลงมือท า ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันทุกฝ่าย โดยมีเจ้าหน้าที่ต ารวจ
เป็นแกนกลางในการประสาน โดยการส่งข้อมูลแจ้งให้เจ้าของพื้นที่ทราบว่าจะต้องปรับปรุงอะไร อย่างไร
และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ใช้พื้นที่ทราบว่าจะต้องระมัดระวังตัวเองอย่างไรในการเข้าไปในบริเวณพื้นที่เหล่านั้น
หรือประสานไปยังหน่วยงานราชการเกี่ยวข้องว่าควรจะเข้ามาร่วมสนับสนุนในเรื่องใดได้บ้าง เช่น แสงสว่าง
ต้นไม้รกทึบ เป็นต้น เพื่อเป็นการขจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดอาชญากรรมให้หมดสิ้นไป รวมทั้ง
ให้ค าแนะน าผู้เกี่ยวข้องในการน าเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ เพราะเจ้าหน้าที่ต ารวจเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องของ
การป้องกันอาชญากรรมมากที่สุด ถ้าหากเจ้าหน้าที่ต ารวจไม่เป็นแกนกลางในการให้ค าแนะน าหรือ
ประสานงานแล้ว คิดว่าอาจจะท าให้การป้องกันนั้นไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าใจถึง
แนวความคิดในการลงมือท าร่วมกันแล้ว ก็จะส่งผลให้เกิดความปลอดภัยร่วมกัน (Safer Together) ดังนั้น
แฟ้มข้อมูลจากการส ารวจ แฟ้มข้อมูลการด าเนินการวิเคราะห์เหล่านี้จะต้องถูกจัดเก็บเอาและรวบรวมเอาไว้
ที่สถานีต ารวจ เมื่อผู้บังคับบัญชาท่านใดย้ายเข้ามารับต าแหน่งใหม่ก็สามารถที่จะทราบข้อมูลได้ทันที ถ้าหาก
มีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามข้อมูลจากผู้ส ารวจซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ต ารวจสายตรวจที่ยังอยู่ในพื้นที่ได้
ทั้งหมดนี้ก็คือหลักการและขั้นตอนง่าย ๆ ในการจัดท าการป้องกันอาชญากรรมจากสภาพแวดล้อม
แต่หากถามว่าผลส าเร็จของการป้องกันอาชญากรรมจากสภาพแวดล้อม หรือป้องกันอาชญากรรมทั่วไป
จะประสบความส าเร็จหรือไม่นั้นจะสามารถรู้ได้อย่างไร เราคงจะต้องถามไปที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิด