Page 188 - 25620605121318noศธ 021028614file02_2
P. 188

ก่อนที่จะน าถุงยางมาบรรจุกล่องในขั้นตอนสุดท้าย ถุงยางทุกชิ้นที่ผลิตได้จะต้องผ่านการ
                  ตรวจสอบด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตรวจหารอยรั่วหรือสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ถุงยางแต่ละชิ้นจะถูกครอบลง

                  บนแท่งโครเมียม จากนั้นจะปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงขนาด 2,000 โวลต์เข้าไปสู่แท่งโลหะนี้ และจะมี
                  สัญญาณเตือนให้ทราบ เมื่อถุงยางอนามัยชิ้นใดชิ้นหนึ่งมีรอยรั่วหรือสิ่งผิดปกติ ซึ่งถุงยางอนามัยชิ้นนั้น
                  จะถูกแยกออกมาต่างหาก เพื่อคัดทิ้งต่อไป
                         "เราเคยเจอเหมือนกันนะ มีบางครั้งเกิดอุบัติเหตุแท่งแก้วส าหรับขึ้นรูปไปกระแทกกับกระจก

                  แล้วเศษแก้วหล่นลงไปในน้ ายาง พอเราน าไปตรวจสอบรอยรั่วด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ปรากฏว่า เกิดรั่ว
                  ร้อยละ 50 - 60 เราก็จะไม่เสียเวลาคัด เราจะทิ้งไปทั้งลอตเลย นอกจากนี้แล้วในทุก ๆ ชั่วโมง เราจะเอา
                  ถุงยางที่รั่วมาเจาะรูให้รั่ว 12 ชิ้น แล้วน าไปผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อีกครั้ง เพื่อดูว่าเครื่องยังท างานดีอยู่
                  หรือไม่ ซึ่งทุกชิ้นจะต้องลงไปที่ช่องรีเจกต์หมด ถ้าไม่รีเจกต์ทั้ง 12 ชิ้น เราจะหยุดเครื่อง แล้วให้ช่างมาท า

                  การแก้ไขจนกว่าทั้ง 12 ชิ้น ถูกรีเจกต์หมด เราถึงมาใช้เครื่องนั้นอีกครั้ง" สุรเกียรติ ยกตัวอย่างให้ฟัง
                         อย่างไรก็ตาม แม้กระบวนการตรวจสอบคุณภาพจะด าเนินไปอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพียงใด แต่ก็ใช่ว่า
                  ถุงยางอนามัยทุกชิ้นจะสมบูรณ์แบบและปลอดภัย 100% เพราะจากข้อมูลที่ทางบริษัทผู้ผลิตบันทึกเอาไว้
                  เปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง

                  ของรูรั่ว
                         "ผมพูดตรง ๆ เลยว่าไม่มีหรอกครับที่สินค้าชนิดไหนในโลกจะสมบูรณ์ โดยไม่มีข้อผิดพลาด ไม่ว่า
                  คุณจะซื้อสินค้าราคาเป็นล้านก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่า คุณจะได้ของดีทุกอย่าง ซื้อรถยนต์ราคาเป็นล้าน

                  มาใหม่ ๆ ขับไปอยู่ดี ๆ เกิดเครื่องดับก็มี แต่ว่าเราพยายามถึงที่สุดที่จะให้เปอร์เซ็นต์รั่วออกมาต่ าที่สุด
                  ปกติทั่วไปแล้วมาตรฐานของ อย. ก าหนดเปอร์เซ็นต์การรั่วเอาไว้ที่ 0.25% แต่ดูเร็กซ์ท าได้ 0.0002%
                  เรียกว่าต่ ากว่านั้นไปไม่รู้เท่าไร เพราะฉะนั้นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการใช้ถุงยางอนามัยของเราก็ยิ่งต่ ามากขึ้น
                  ไปด้วย" ผู้จัดการฝ่ายผลิต อธิบายความปลอดภัยของการใช้ถุงยางอนามัย
                         จากนั้นถุงยางอนามัยที่ตรวจสอบคุณภาพแล้ว จะถูกน าไปบรรจุฟอยล์และเติมสารฆ่าเชื้อ หรือ

                  กลิ่นต่าง ๆ เป็นขั้นตอนสุดท้าย
                         จะเห็นได้ว่า กว่าที่จะมาเป็นถุงยางแต่ละชิ้นนั้น เต็มไปด้วยความลับและความยุ่งยาก ในส่วนของ
                  ผู้ใช้เองก็ต้องมีความระมัดระวัง และใช้ให้ถูกวิธีเช่นกัน เพราะมิฉะนั้นแล้ว แม้สินค้าจะมีคุณภาพมากมาย

                  สักเพียงใด แต่ถ้าผู้ใช้ใช้ไม่เป็นแล้วอันตรายก็ย่อมอาจเกิดขึ้นได้ ที่ส าคัญคือต้องพึงสังวรเอาไว้ว่าไม่มีวิธี
                  คุมก าเนิดใดที่สามารถคุมก าเนิดหรือป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ 100%






                             ที่มา :


                                  พีรยุ ดีประเสริฐ. (2553). ความลับของถุงยางอนามัย. วันที่ค้นข้อมูล 19 เมษายน 2560.
                                    เข้าถึงได้จาก https://xonly8.com/index.php?topic=80426.0









                                                                                                               184
   183   184   185   186   187   188   189   190   191   192   193