Page 26 - ผลแลปตรวจurineและfeces
P. 26
22
• ยูโรบิลิโนเจน (Urobilinogen หรือ UBG) เมื่อบิลิรูบินถูกขับออกมาทางเดินอาหาร
จะถูกแบคทีเรียในล้าไส้เปลี่ยนเป็นสารยูโรบิลิโนเจน ส่วนหนึ่งของสารนี้จะถูกดูดซึม
กลับไปที่ตับเพื่อน้าไปสร้างเป็นบิลิรูบินมาใช้ใหม่ แต่อีกส่วนหนึ่งจะถูกดูดซึมกลับเข้า
สู่ระบบไหลเวียนเลือดปกติและไปผ่านหน่วยกรองของไต ท้าให้ในคนทั่วไปจะ
สามารถตรวจพบยูโรบิลิโนเจนในปัสสาวะในระดับต่้า ๆ ได้เป็นปกติ โดยการ
ตรวจหาสารยูโรบิลิโนเจนในปัสสาวะนี้มักใช้พิจารณาร่วมกับการตรวจบิลิรูบินใน
ปัสสาวะเพื่อแยกชนิดของโรคตับ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก และการอุดตันของ
ทางเดินน้้าดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าตรวจเป็นระยะ ๆ ก็จะช่วยติดตามการด้าเนินของ
โรคและดูการตอบสนองต่อการรักษาได้ด้วย
o ภาวะปกติ คือ ตรวจไม่พบสารยูโรบิลิโนเจนในปัสสาวะ (Negative) หรือพบ
ในระดับต่้า ๆ
o ภาวะผิดปกติ คือ ตรวจพบสารยูโรบิลิโนเจนในปัสสาวะสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดจาก
ภาวะเม็ดเลือดแตก (Hemolytic anemia) หรืออาจเกิดจากภาวะที่เกิดการ
ท้าลายของเนื้อตับ (Hepatic disease)
• เม็ดเลือดขาว (Leukocyte หรือ LEU) คือ การตรวจหาเอนไซม์ลิวโคไซต์เอสเทอเรส
(Leukocyte esterase) ในปัสสาวะ ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบได้ในเซลล์เม็ดเลือดขาว
เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวแตกสลายก็จะท้าให้สามารถตรวจพบเอนไซม์ลิวโคไซต์เอส
เทอเรสในปัสสาวะได้ โดยในปัสสาวะของคนปกติจะมีเม็ดเลือดขาวปะปนอยู่ แต่มี
จ้านวนไม่มาก จึงท้าให้โดยปกติแล้วจะตรวจไม่พบเอนไซม์ลิวโคไซต์เอสเทอเรส
o ภาวะปกติ คือ ตรวจไม่พบเอนไซม์ลิวโคไซต์เอสเทอเรส (Negative)
o ภาวะผิดปกติ คือ ตรวจพบเอนไซม์ลิวโคไซต์เอสเทอเรส ซึ่งแสดงว่าปัสสาวะมี
เม็ดเลือดขาวปะปนอยู่เป็นจ้านวนมากขึ้น หรือเรียกว่าภาวะมีเม็ดเลือดขาวใน
ปัสสาวะ (Leukocyturia) โดยภาวะที่มีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะนี้มักสัมพันธ์
กับการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI)