Page 162 - เสด็จสู่แดนสรวง
P. 162
มจ.จงจิตรถนอม ดิศกุล ทรงเก็บพระอัฐิ สมเด็จฯ กรมพระยําดํารงรําชํานุภําพ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนําคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ซ่ึงเป็นช่วงที่มีกํารประกําศระเบียบใหม่เกี่ยวกับกํารไว้ทุกข์ (ที่มํา: กรมศิลปํากร ๒๕๒๙: ๘๖)
หลงั จํากนจ้ี ะหยดุ ประกําศไป และไปเรมิ่ ตน้ ใหมอ่ กี ครงั้ เมอื่ พ.ศ. ๒๔๙๘ ครงั้ สมเดจ็ พระศรสี วรนิ ทริ ํา บรมรําชเทวี พระพันวัสสําอัยยิกําเจ้ําเสด็จสวรรคต (ราชกิจจานุเบกษา ๒๔๙๙: ๑๒๔๒-๑๒๘๑) สนั นษิ ฐํานวํา่ เหตทุ ห่ี ยดุ ประกําศไปนํา่ จะสมั พนั ธก์ บั กํารสละรําชสมบตั ขิ องพระเจํา้ อยหู่ วั รชั กําลที่ ๗
ส่วนในเรื่องจํานวนวันของกํารไว้ทุกข์นั้น ในรัฐบําลจอมพล ป. พิบูลสงครําม ได้ยกเลิก พระรําชกฤษฎีกําในสมัยรัชกําลท่ี ๖ แล้วออกประกําศใหม่เร่ืองระเบียบกํารไว้ทุกข์ในพระรําชสํานัก เม่ือวันที่ ๑๘ กุมภําพันธ์ ๒๔๘๕ ซ่ึงมีเนื้อหําหลักคือกํารลดจํานวนไว้ทุกข์ลงครึ่งหนึ่งจํากพระรําช กฤษฎีกําฉบับก่อน ซ่ึงไม่ทรําบเหตุผลท่ีแน่ชัดแต่คงเกี่ยวข้องกับกํารเมืองหรืออย่ํางใดอย่ํางหนึ่ง
นอกจํากนี้ ในช่วงที่ จอมพล ป. พิบูลสงครําม เป็นนํายกรัฐมนตรีได้วํางแบบแผนของ กํารแตง่ กํายไวท้ กุ ขข์ องบคุ คลทว่ั ไปดว้ ยเชน่ เดยี วกนั คอื เรอ่ื งระเบยี บกํารแตง่ กํายไวท้ กุ ขใ์ นงํานศพ ประกําศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหําคม พ.ศ. ๒๔๘๔ หน้ํา ๕๘ ให้ชํายแต่งใส่สูทขําว ผูกไทดํามีปลอกแขนทุกข์ ซ่ึงถือว่ําเป็นกํารวํางระเบียบเเบบเเผนที่ไม่เคยมีมําก่อน และยังอําจจะ สะท้อนให้เห็นว่ํา ธรรมเนียมของกํารแต่งกํายไว้ทุกข์ของชําวบ้ํานทั่วไปรวมถึงผู้มีอันจะกินก็คงจะ หลํากหลํายไม่น่ําเคร่งครัดเท่ําไหร่
อําจกล่ําวได้ว่ํา แบบแผนกํารแต่งกํายไว้ทุกข์ของสังคมทุกวันนี้ก็เพิ่งจะลงตัวกันสมัย จอมพล ป. พบิ ลู สงครําม นเี้ อง เพยี งเเตเ่ ปลยี่ นจํากสทู ขําวกํางเกงขําวมําเปน็ สทู ดํา กํางเกงดํา เเทน
การเปลี่ยนแปลงในช่วงรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
หลังจํากกํารข้ึนมํามีอํานําจของจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ พระรําชประเพณีรําชสํานัก กไ็ ดร้ บั กํารรอ้ื ฟน้ื ใหม้ กี ํารประกอบพระรําชพธิ ใี หมอ่ กี ครงั้ เชน่ พระรําชพธิ จี รดพระนงั คลั แรกนําขวญั และขบวนเรือพระพยุหยําตรําทํางชลมํารค ดังนั้น ขนบกับกํารไว้ทุกข์ก็ได้รับกํารปรับปรุงใหม่ อีกคร้ังเช่นกัน
เสด็จสู่แดนสรวง
๑๖๐ ศิลปะ ประเพณี และความเชื่อในงานพระบรมศพและพระเมรุมาศ