Page 37 - วรรณกรรมมัธยม
P. 37
มนตรำแห่งสำยน้ ำ
ใกล้เทศกาลออกพรรษาของทุกปีเทศบาล โรงเรียน และชุมชน จะครึกครื้นและ
สนุกสนานกับการเตรียมตัวเข้าร่วมกิจกรรมประจ าปีที่เทศบาลนครรังสิตจัดขึ้น คือ การแข่งขันเรือพาย
ประเพณีชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เป็นประจ าทุกปี
ในทุกๆ ปี จะมีขบวนแห่ที่สวยงามน าด้วยวงโยธวาทิต ซึ่งเทศบาลนครรังสิตได้เชิญผู้เกี่ยวข้อง
จากหน่วยงานต่างๆ มาประชุมวางแผนการจัดงานร่วมกัน ครูเคยพูดกับพวกเราเสมอว่า “โรงเรียนของเรา
ตั้งอยู่ที่เทศบาลนครรังสิต ได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือสิ่งปลูกสร้างเครื่องมืออุปกรณ์การเรียนรวมถึง
ทุนการศึกษามากมายจากเทศบาลนครรังสิต สิ่งที่พวกเราทุกคนจะตอบแทนคุณได้ก็ด้วยการตั้งใจเรียน
หนังสือให้เก่งๆ แล้วกลับมาช่วยกันพัฒนาท้องถิ่นของเราให้ดีขึ้น และที่ท าได้เลยขณะเรียนคือพวกเราควร
เข้าร่วมกิจกรรมของเทศบาลนครรังสิตช่วยกันอนุรักษ์และรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของเทศบาลนครรังสิต
ต่อไป”
โรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานงานกับเทศบาลนครรังสิต ในการ
จัดริ้วขบวนต่างๆ ต่อจากวงโยธวาทิตก็จะเป็นขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
สยามบรมราชกุมารี เราทุกคนจึงมีความสุขและเต็มใจที่จะฝึกซ้อมเพื่อความ เป็นระเบียบและเป็น
ส่วนหนึ่งของงานในครั้งนี้พี่ปราง พี่ใหม่ และน้องพะแพง พวกเราสามคนร่วมกิจกรรมนี้มาตั้งแต่เข้าเรียน
ม.1 ปีนี้ ม.6 คงจะเป็นปีสุดท้ายของพวกเราที่จะมีโอกาสช่วยเหลือกิจกรรมของโรงเรียน และเทศบาล
นครรังสิต ท้องถิ่นที่รักของพวกเราวันที่พวกเรารอคอยก็มาถึงพรุ่งนี้แล้วสินะวันงาน คืนนี้พวกเราต้อง
มานอนที่โรงเรียนเพื่อช่วยกันจัดเตรียมเสื้อผ้าให้น้องๆ ในชุมนุม ครูเอื้อง แม่ครูร าของพวกเราต้องมา
นอนค้างกับพวกเราเพื่อดูแลและเตรียมเสื้อผ้า อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบริ้วขบวนในวันพรุ่งนี้ ระหว่างรีดเสื้อผ้า
ตอนหัวค่ าพี่ปราง ถามครูเอื้องว่า “เหนื่อยไหมคะคุณครู พวกหนูจบไปใครจะช่วยเตรียมของให้ครูคะ”
ครูเอื้อง “ไม่เหนื่อยหรอกลูก กลับมีความสุขที่ได้มีโอกาสท าอะไรเพื่อท้องถิ่นของเราบ้าง รุ่นเราจบไป
รุ่นใหม่ก็สร้างขึ้นมา ครูว่าดีเสียอีกนะที่จะได้มีลูกศิษย์ได้สืบสานประเพณีท้องถิ่นของเรา ได้ปลูกฝังให้
นักเรียนทุกคนรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม ที่ส าคัญคือความสามัคคีเพราะถ้าไม่มีความสามัคคีการงาน
ทุกอย่างไม่มีทางส าเร็จไปได้เลยลูก” พี่ใหม่พูดขึ้นว่า “หนูเห็นรถโรงเรียนขนของให้น้องเก่ง น้องเนม
และน้องๆ อีกหลายคนพร้อมม้วนผ้าสีม่วง ดอกไม้สดไปที่สะพานแดงกันแล้วค่ะคุณครู” ครูเอื้อง
“น้องเนม น้องเก่ง เขาถนัดเรื่องการจัดตกแต่งดอกไม้และสถานที่ เธอเห็นสถานที่การจัดงานของทุกปี
นั่นแหละฝีมือของน้องๆ เราทั้งนั้น อ้อ ! และยังมีคุณครูอีกหลายคนที่มีความสามารถช่วยกันตกแต่ง
แบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันไปตามความถนัดของแต่ละคน ส่วนเรื่องผ้าสีม่วง เราไปร่วมงานกันมาหลายปี
ใครพอจะตอบครูได้ไหมว่าท าไมเราต้องใช้สีม่วง” พะแพงที่ก าลังพับจีบสไบหันกลับมาตอบครูเอื้องทันทีว่า
“เป็นสีประจ าพระองค์ของสมเด็จพระเทพฯ ค่ะ เพราะเราชิงถ้วยพระราชทานของพระองค์ท่าน
จึงประดับตกแต่งด้วยสีม่วงทั้งผ้าและดอกไม้ค่ะครู”
ครูเอื้อง “ดีนะที่มีคนตอบได้ร่วมงานมาหลายปีแล้วตอบไม่ได้ครูเสียใจแย่เลยเสียชื่อหมด”
ทุกคนหัวเราะสนุกสนานไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย “ครูเอื้องคะ” พี่ปรางเอ่ยขึ้น “ประเพณีแข่งเรือนี่มีมานานแล้ว
หรือคะ” ครูเอื้อง “ประเพณีแข่งเรือพายของเทศบาลนครรังสิตเท่าที่ครูทราบเริ่มเมื่อปีพุทธศักราช 2543
37