Page 10 - test ebook1
P. 10

6)   แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 6  (พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2534)

                       ผลจากการพัฒนาตามแผนฉบับที่ 5 พบว่า  “ยิ่งพัฒนาคนยิ่งจนลง”   สิ่งแวดล้อมถูกท าลาย  สังคม
                       ล่มสลาย  ได้มีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาใหม่  โดยการเปลี่ยนความสัมพันธ์

                       ทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ  “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า”   เกิดองค์กรระหว่าง

                       ประเทศมากมาย  เช่น   ASEM , AFTA  , WTO  ในขณะที่ภาคธุรกิจในประเทศก็มีการจัดตั้ง  สภา

                       อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ภาคเอกชนมีความแข็งแกร่ง  ในขณะที่ภาคประชาชนใน
                       ชนบท  ก็มีการตื่นตัวในการรักษาปกป้องและรักษาสิทธิ ของชุมชนในการจัดการ

                       ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการมีการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายเชิงพื้นที่  เช่น  เครือข่าย

                       กลุ่มฮักเมืองน่าน  และเครือข่ายเชิงประเด็น  เช่น  เครือข่ายหมอพื้นบ้าน , เครือข่ายด้าน
                       ทรัพยากรธรรมชาติ (เครือข่ายป่าตะวันออก)     เครือข่ายอินแปง  แต่ละเครือข่ายต่างมีพัฒนาการ

                       และเป้าหมายในการอนุรักษ์ทรัพยากรและก็แก้ปัญหาด้วยตนเอง  กิจกรรมโครงการได้ขยายอย่าง

                       รวดเร็ว

                                            7)      แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่  7   (พ.ศ. 2535 - พ.ศ.2539 )
                       ภายหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ  ภาคประชาชนมีการตื่นตัวกันมาก  โดยเฉพาะในด้านการเมืองและ

                       เข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการต่าง  ๆ  ซึ่งน าไปสู่การมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี  2540  ที่เอื้อ

                       ต่อการรวมตัวของประชาชนและองค์กรชุมชน  การคุ้มครองสิทธิของชุมชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์
                       ภูมิปัญญา  การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ  สิ่งแวดล้อมซึ่งน าไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางความคิดและ

                       ความสัมพันธ์ของกลุ่ม  องค์กรชุมชนและเครือข่ายภาคประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐในสมัยต่อมา

                                            8)  แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่  8  (พ.ศ.2540-พ.ศ.2544)

                       ผลจากการพัฒนาที่ผ่านมา ได้ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนเพราะการพัฒนาได้ท าลาย
                       สิ่งแวดล้อมทรัพยากรของชุมชนวัฒนธรรมดังนั้นในแผนฯฉบับที่  8  จึงมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

                       โดยที่ภาครัฐหันไปพัฒนาภาคเกษตรกรรมควบคู่กับอุตสาหกรรมและภาคประชาชนหันกลับไปสู่

                       การฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น  การรักษาลุ่มน ้าและป่าชุมชน  การรวมกลุ่มของภาคประชาชนโดยเน้น
                       การพัฒนาคน  ครอบครัว  ชุมชนเข้มแข็ง  และภายหลังเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในปี

                       2539-2540  ท าให้ภาคประชาชนเกิดความสนใจและตื่นตัวในการพึ่งพาตนเองมากขึ้นและใน

                       ปี 2541 ได้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อสังคม  (SIF) ซึ่งโครงการดังกล่าวได้สร้างปรากฎการณ์

                       การเรียนรู้และการรวมพลังให้กับกลุ่มและองค์กรชุมชนเครือข่ายภาคประชาชนเป็นอย่างมาก
                       กองทุนดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ   และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่

                       ชุมชนทั้งในเมืองและชนบท   เพื่อการฟื้ นฟูวิกฤติเศรษฐกิจไปสู่การพึ่งตนเองในระยะยาว

                       (ส านักงานกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม.2545.น12)*   ในขณะเดียวกันประชาชนก็รวมตัวกันใน
                       นามของ  “สมัชชาคนจน”  ท าการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

                       โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ  และผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ




                       องค์กรชุมชนและเครือข่ายชุมชน                                                      5
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15