Page 208 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 208

๐๘๔                                              ธรรมะบรรยาย

                                                                   ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม

                 ๖ มิถุนายน ๒๕๖๔



                     เจริญพรทุก ๆ ท่าน พวกเราทุกคนต่างพากันมาเพื่อต้องการอะไร ต้องการพลังจิต ทำสมาธ       ิ

               ทำเพื่ออะไร สะสมพลังจิต พลังจิตสะสมอะไร พลังจิตจะสะสมบุญ วาสนา บารมี เราทำบุญน้ำกี่

                                                                                    ิ
               หยดข้าวกี่คำ ทั้งหมดทั้งปวงที่สร้างขึ้นเพื่อไปรวมที่พลังจิต เมื่อเรานั่งสมาธ เรานึกพุทโธก็จะมีพลัง
                            ้
               จิต เรียกว่าสรางบุญสายตรง การทำบุญนั้นถ้าทำไม่ถูก มันก็ผิด แทนที่จะได้บุญก็เป็นบาป
                     มาฟังสักเรื่องหนึ่งก่อน ยังมีนายพรานไปจับนกในป่าทุก ๆ วัน นายพรานที่ไปจับนกในป่านั้น

               ทราบว่ามีตาปะขาว  เดินทางมาจากไหนไม่รู้  ไปเห็นนกติดบ่วงตาปะขาวรีบไปช่วย  พอตาปะขาว

               ช่วยมาคิดได้ว่า โอ้ เราน่าจะผิดศีลล่ะ ไปขโมยนกของเขา แกมีเงินอยู่ ๔ บาทก็เลยเอาเงินไปวาง

               ตรงที่ดักนก และเดินต่อไป รุ่งขึ้นนายพรานก็มาเพื่อจะจับนกที่ติดบ่วงก็ไปเจอเงิน เกิดมาไม่เคยพบ

               ไม่เคยเห็น  มันจะเกิดเสนียดจัญไรหรือภัยใด  ก็ไปกราบทูลพระเจ้าแผ่นดิน  ในสมัยก่อนพระเจ้า

               แผ่นดินก็ไปเรียกโหรมา หมอโหรก็อธิบายไม่เป็น หมอโหรก็ทำนายบอกว่าจะเกิดโกลาหล เกิดลาง

               ไม่ดี พระเจ้าแผ่นดินถามถ้าลางไม่ดีต้องทำอย่างไร จะต้องเอาเลือดจากมนุษย์ ๑๐๐ คน จากสัตว์

               อีก ๑๐๐ ตัว และเอาเลือดจากสัตว์อีกหลายอยางรวมเป็นหลายร้อย เพื่อไปบูชายัญ
                                                           ่
                     ท่านทั้งหลาย  ลองคิดดูว่านกตัวเดียวแต่ว่าตาปะขาวคิดจะช่วยชีวิตแต่แทนที่จะช่วยตายไป

               อีกหลายศพ เพราะฉะนั้น การสร้างบุญโดยตรงนั่งขัดสมาธินึกพุทโธ ๆ คำเดียวเท่านั้น เพราะพุทโธ

               แปลว่า  “ผู้รู้”  นึกถึงเมื่อไหร่ก็เป็นบุญเมื่อนั้น  เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป  เราก็ได้วิตามิน

               โปรตีน อาหารที่บริโภคเข้าไปก็กลายเป็นเลือดเป็นเนื้อ เพราะเรามีชีวิตอยู่ได้ก็ต้องมีอาหาร ถ้าไม่มี

               อาหารก็ต้องรอความตาย  บุญก็เหมือนกันก็ต้องหล่อเลี้ยงเราไปตลอด  คนจะตายเรียกว่าหมดบุญ

               แล้วไปแล้ว หมายความว่าเมื่อมีชีวิตอยู่เหมือนมีบุญอยู่ แท้ที่จริง ไม่หมดบุญ คนเราจะตาย ตายแต่

                                                     ู่
               ร่างกาย ใจยังไม่ตายตามไปด้วย ใจยังอย คนเรามีกายกับใจ กายก็สำคัญ ใจก็สำคัญ เมื่อมีร่างกาย
               เราก็มีบุญ เพราะฉะนั้น ชีวิตที่สมบูรณ์จริง ๆ เราต้องทำบญทุก ๆ วัน บุญก็จะสมบูรณ์ขึ้นทุกวัน
                                                                      ุ
               เรียกว่า “สะสม” แบบเดียวกับการทำสมาธิ เราก็ได้พุทโธจำนวนหนึ่งสะสมให้เป็นนิสัย เป็นวาสนา

               เป็นบารมี นั่งสมาธิแล้วให้คนอื่นได้อีก นั่งสมาธิเสร็จ ก่อนจะเลิกจากสมาธิ เราก็บอกว่า “สัพเพ สัต

               ตา”  สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น  จงพากันมาอนุโมทนาบุญ



                                                          ๒๐๘
   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212   213