Page 234 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 234
น้ำที่เล็กน้อยอะไรมีค่ามากกว่ากัน พระญาติทั้งสองฝ่ายก็บอกว่าน้ำกับความเป็นกษัตริย์ สู้ความ
เป็นกษัตริย์ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แล้วพวกท่านทั้งหลายทำไมมาแย่งชิงน้ำที่มีค่าน้อยอย่างนี้
ิ
พูดเรื่องการทำสมาธ เราก็ทำสมาธิได้หรือว่าในรถเก๋ง เราไม่ได้ขับเอง คนอื่นขับ เราก็ทำ
สมาธิได้ นี่ก็คือวิธีการที่จะเสริมพลังจิต เพราะพลังจิตที่ได้และก็เสื่อมได้เหมือนกับเราทานข้าวเข้า
ไป ร่างกายของเราก็มีพลังงานนั้นก็หมดไปด้วยการเดิน นั่ง การพูดคุยมันค่อย ๆ หมดไป เดี๋ยวก็หิว
แล้ว เราก็เติมอีก เช่นเดียวกับพลังจิต เวลาเราไม่ไปเติมมันก็จะหงุดหงิด มันก็จะขี้เกียจ จะขี้บ่น มัน
จะฟุ้งซ่าน อันนี้คือพลังจิตมันลดลงไป เราก็ไปรับพลังจิตส่วนเลว มันจึงทำให้ใจของเราฟุ้งซ่าน ที่นี้
เรามาสร้างพลังจิตส่วนดี ด้วยการสวดมนต์พลจักรรัตนสูตร ในวันนี้คือพระอาจารย์ปานนิธิ สุขิโต
ซึ่งมาบวชที่วัดเทพเจติยาจารย์ ๒-๓ ปี บวชไปก็ดูลักษณะท่านนี้เป็นอย่างไร “สุขิโต” แปลว่า ผู้มี
ความสุข มันก็เป็นอย่างงี้
ถ้าหากว่าเรามีความทุกข์ มันจะนอนไม่หลับ กินข้าวไม่อร่อย ความสุขความสามรถเกิดขึ้นได้
ทุกที่ เพราะฉะนั้น จงทำใจเราให้มีความสุขเถิด เรารักษาชีวิตของเราไม่ดีกว่าหรือ ถ้าท่านทั้งหลาย
ได้ใช้ความรุนแรงประหัตประหารกัน ท่านจะมีโอกาสกลับไปบ้าน เห็นภรรยาหรือได้เห็นครอบครัว
ไหม มันต้องมีการล้มตายเป็นจำนวนมากอยู่แล้วในระหว่างที่พวกท่านรบกัน มันต้องมีการล้มตาย
้
อยู่แล้วอาวุธขนาดนี้ เมื่อล้มตายใครเล่าที่เศราโศก ใครที่มีชีวิตอยู่ เขาจะพอใจหรือไม่ ทุกคนก็
ปราศจากสามี ส่วนภรรยาก็เป็นหม้ายนั่นหรือ มันคือสงครามที่นำมาซึ่งความเศร้าโศกแก่ญาติทั้ง ๒
ฝ่าย เพราะฉะนั้น ท่านหยุดเดี๋ยวนี้ พวกคนเหล่านั้นจะดีใจขนาดไหน แต่ถ้าไปเป็นศพ น้ำตาแต่ละ
คนต้องหลั่งออกมา นี่คือความเศราโศกที่พลัดพรากจากสามี พลัดพรากจากพ่อ พลัดพรากจากแม่
้
ื่
เพราะฉะนั้น การประหัตประหารกันเรองน้ำอันมีค่าน้อยไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีน้อยก็แบ่งกันใช้
มีมากก็แบ่งกันใช้ มีเท่าไหร่ ๆ ก็แบ่งกัน ดีกว่ามาแย่งกัน มาปล้นกันมาฆ่ากันเพราะน้ำอันมีค่าน้อย
ไม่มีประโยชน์เลย
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมไปในลักษณะนี้ ปรากฏว่าพระญาติทั้ง ๒ ฝ่ายวางดาบลงวาง
ปืนลงแล้วต่างก็ก้มกราบพระพุทธเจ้า บัดนี้ข้าพระพุทธเจ้าไม่ประหัตประหารกันแล้ว เมื่อกลับมาที่
พระราชวัง ทางฝ่ายกบิลพัสดุ์ก็ดีใจ ทางฝ่ายโกลิยวงศ์ก็ดีใจ พระบิดากลับมาแล้ว พระสวามีกลับ
มาแล้ว กองทัพกลับมา ทุกคนก็ดีใจ ทุกคนปลอดภัยไม่เกิดอันตราย ที่นี้ต่างคนก็มานึกกันว่า โอ้ เรา
ได้ชีวิตกลับมาได้อย่างปลอดภัย ไม่มีใครล้มตายแม้แต่คนเดียว ทั้งนี้ก็ต้องยกคุณงามความดีให้แก่
พระพุทธเจ้า ก็เลยต้องไปเจรจากันว่าเราควรทำอย่างไรเพื่อตอบแทนพระพุทธเจ้า ก็ตกลงกันว่า
เราควรจะส่งพระราชกุมารข้างละ ๒๕๐ ท่าน ไปถวายแก่พระพุทธเจ้า ส่วนพระพุทธองค์ก็ทรง
๒๓๔