Page 296 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 296

มีความจดจ่อ ตั้งมั่น อยู่ที่คำ ๆ นั้น มันจึงเกิดผลที่ดี แต่ถ้าสวดแบบนกแก้วนกขุนทอง มันก็อีกแบบ

               หนึ่ง มันก็เกิดผลเหมือนกันแต่ว่าผลนั้นอาจจะไม่เหมือนกันเราตั้งใจจริง ๆ

                     เพราะฉะนั้น เจตนานี่ พระพุทธเจ้าว่า “เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ” เจตนาต่างหากที่

               เป็นผล  ส่วนการสวดออกเสียงหลวงปู่มั่นก็บอกว่า  มันแผ่ไปได้แสนจักรวาล  แสนโกฏิจักรวาล

               อนันตจักรวาล อะไรมันมีผลมากกว่ากัน ตัวเราได้ถ้าสวดในใจ ตัวเราได้ ได้เน็ท ๆ แต่ว่าสวดออก

               เสียงนี่ได้เฉพาะตัวเราด้วย  ได้เฉพาะคนอื่นด้วย  โลกทิพย์ก็ได้ด้วย  ญาติทิพย์ก็คือพวกพี่เป็นญาติ

               เป็นพี่ เป็นน้อง พี่สามี เป็นภรรยา ลูกหลานตายไปแล้ว เป็นญาติทิพย์คือญาติที่ตายไปแล้ว เขาเป็น

               เทวดา  เขาก็รู้ว่าเราสวดมนต์ให้เขา  เขาก็ได้รับด้วย  สัมภเวสีที่เร่ร่อนหาที่เกิด  เมื่อได้รับเสียงการ

               สวดมนต์เขาก็มาอนุโมทนาบุญได้ด้วย  ในการอันเชิญเทวดาที่เราจะสวดนี่  ขอเชิญเหล่าเทวดาอย      ู่

               โดยรอบจักรวาล ในสวรรค์ชั้นกามภพ รูปภพ ภุมมเทวดา ยักษ์ คนธรรพ์ นาคราช เราก็เชิญมาฟัง

                                                               ิ
               ยักษ์ก็เชิญมาฟัง คนธรรพ์ก็เชิญมาฟัง นาคราชก็เชญมาฟัง นั่นหมายความว่า เราสวดนี่ เราไม่ได้
               เฉพาะตัวเรา แม้แต่โลกทิพย์ก็ได้ด้วย พวกอมนุษย์ ภูตผีปีศาจก็ได้ด้วย แต่ถ้าเราสวดในใจ การที่จะ

                              ู้
               ให้คนอื่นมันรับร มันก็ได้ แต่ว่าจะได้เฉพาะตัวเราซะมากกว่า
                     เพราะฉะนั้น อยู่ที่เจตนาเป็นหลัก เราสวดในใจก็ได้ สวดนอกใจก็ได้ หรือว่าสวดออกเสียงก็

               ได้ อยู่ที่เรา ความปรารถนาดีอยากจะสวดมนต์ให้เกิดประโยชน์ต่อคนอื่น เรียกว่าเป็นเมตตาธรรม

               เราก็สวดเสียงดังได้ มันจะได้ทั้งตัวเองและสรรพสัตว์ทั้งหลายโดยเฉพาะผู้ที่เป็นกายทิพย์ต่าง ๆ ได้

               ด้วย ส่วนเราสวดในใจมันก็มีผล ส่วนมากผู้ที่ฝึกใหม่ก็ควรจะสวดออกเสียง ถ้าสวดคล่องแล้วจะสวด

               ในใจก็ได้ แต่ถ้าหากว่ามีจิตเมตตา อยากจะให้คนอื่นได้รับด้วย ก็ควรจะสวดออกเสียง ถ้าออกเสียง

               ได้มันก็จะดี  อันนี้หลวงปู่มั่นบอกว่า  ถ้าสวดมนต์ออกเสียงเท่านี้แผ่ไปได้แสนจักรวาล  ถ้าสวดเต็ม

               เสียงแผ่ไปได้ตลอดอนันตจักรวาล หลวงปู่มั่นพูดอย่างนี้ แสดงว่าการสวดมนต์ ถ้าออกเสียงมันจะ

               มีพลานุภาพมากได้เผื่อแผ่ให้แก่คนอื่นด้วย  หลวงปู่มั่นไม่ได้บอกว่า  การสวดมนต์ให้สวดในใจแล้ว

               จะแผ่พลังงานไปเท่านั้น เท่าโน้น ไม่ได้บอก แต่ท่านบอกว่า สวดออกเสียงเท่านั้น เท่านั้น มันจะแผ่

               ไปได้เท่านั้น เท่านี้

                     เพราะฉะนั้น  ขอเชิญทุกท่านได้สวดมนต์ร่วมกันการเปล่งออกเสียงนี่แหละเป็นการเผื่อแผ่

                                                          ์
                                                               ุ
               เมตตาจิตให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายได้รับอนิสงสผลบญด้วย  แต่ถ้าหากเราสวด  คนอื่นไม่สวดด้วย
               เขาอาจจะรำคาญก็ได้ ฉะนั้นเราก็สวดในใจเขาเราซะ มันก็ต้องดูความเหมาะสมก็แล้วกัน สาธุ สาธุ

               สาธุ อนุโมทามิ





                                                          ๒๙๖
   291   292   293   294   295   296   297   298   299   300   301