Page 293 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 293
เปรี้ยวไป ขอน้ำปลาหน่อย ใส่น้ำปลาแล้ว ไม่เผ็ด ขอพริกหน่อย บางคนมันโมโห อุตส่าห์ทำให้กิน
แล้วยังเรื่องมากอีก บางคนเขาว่าแบบนั้น
่
พระพุทธเจ้าเลยตัดปัญหา โยมใส่บาตรอยางไรก็ฉันอย่างนั้น แต่พระก็ต้องพิจารณาว่า เข้า
กับธาตุขันธ์ของท่านหรือไม่ องค์ที่เคยฉันบ่อย ๆ พอฉันแล้วก็จะรู้ว่ามันเข้ากับธาตุขันธ์ของท่าน
ขนาดไหน ท่านก็พิจารณา อันนี้เคยฉันแล้วมันไม่เข้ากับธาตุ ก็จะละเว้น แต่ถ้ามันไม่มี ก็ต้องฉันเพื่อ
ประทังชีวิต อันนี้คือเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องมาก พระพุทธเจ้าตัดกิเลสไป อย่าเรื่องมากการ
รับประทานอาหาร ทีนี้ถ้าไปบิณฑบาต ท่านก็บอกว่า เมื่อก่อนเดินเป็นแถวไปก็ให้เดินไป องค์ไหน
ไปก่อนก็ให้เกียรติไม่ใช่เดินแซงหน้าแซงหลัง แซงไปเรื่อย ๆ ท่านบอกว่าไม่ได้ ต้องไปตามลำดับ
องค์ไหนไปก่อนเรียงตามอาวุโส
ี
แต่ปัจจุบันนี้ ไม่ได้ไปเป็นแถว ถ้าตามต่างจังหวัดไปเป็นแถวนี่คือเรยงตามอาวุโส พรรษา ๑๐
ี
พรรษา ๙ พรรษา ๘ พรรษา ๗ พรรษา ๖ ก็ว่าไปตามลำดับ เรยงตามพรรษา แต่ถ้าอยู่ในเมืองจะ
เรียงแถวไม่ได้ เพราะว่าสถานที่ไปตามถนนหนทาง เรียงแถวรถชนแน่ การเรียงแถวมาตามลำดับ
เวลาโยมมาปฏิบัติธรรมก็ให้มีระเบียบ ใครมาก่อนก็เข้าไป อย่าไปแซงกัน อันนี้คือจัดระเบียบ
เพื่อให้การปฏิบัติ มันมีระบบมีระเบียบ พระก็ต้องมีระเบียบ ตอนเดินบิณฑบาตก็เหมือนกัน ที่นี้
การฉันนี่ ข้อที่ ๔ “เอกาสนิกังคะ” คือฉันมื้อเดียว ปกติพระก็จะฉันได้ ๒ มื้อ ตั้งแต่เช้าจนเที่ยงกว่า
ี
ๆ บางองค์ก็ฉันมื้อเดียว เรยกว่า “ฉันเอกา” แปลว่าหนึ่ง ฉันมื้อเดียว ครั้งเดียวต่อวัน อันนี้ก็แล้วแต่
องค์ไหนอธิษฐาน เอาเท่านี้ก่อน การฉันอาหารหรือว่าการรับประทานอาหารนี่ โยมก็ทำได้ ไม่ใช่ว่า
ทำไม่ได้ เอาล่ะวันนี้ ๓ วันนี้ ข้าพเจ้าจะรับประทานอาหารมื้อเดียว ลองดู จะทดลองดู หรือว่า ๒
มื้อก็ได้ ปกติทาน ๓ มื้อ วันนี้ขอลดลงมื้อหนึ่ง เหลือ ๒ มื้อ ๒ มื้อก็พออยู่ได้นี่ ลองลดอีกสักหนึ่งมื้อ
ดูสิ เหลือมื้อเดียวเหมือนพระดูสิ บางคนก็บอกว่าทำได้ หลายคนทำได้ ได้อ่านไลน์ว่า ผมนี่ทาน
อาหารมื้อเดียวต่อวัน พระก็ทำได้ อันนี้โยมก็ทำได้
ฉะนั้น ก็คงจบไว้เพียงเท่านี้ สาธ สาธ สาธุ อนุโมทามิ
ุ
ุ
๒๙๓