Page 290 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 290
ทีนี้ผู้ที่มีบุญบารมีวาสนาก็ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลเป็นจำนวนมาก หลังจากพระพุทธเจ้า
ได้สาธยายรัตนปริตรไปแล้ว นี่ก็บ่งบอกวาความบริสุทธิ์ใจนี้ คือเราทำใจของเราให้บริสุทธิ์นี่ก็เรื่อง
่
ยากเหมือนกัน เหมือนน้ำขุ่นกว่าจะทำให้มันใสก็ต้องทำให้มันนิ่ง เรายิ่งไปก่อกวนมัน ทำให้มัน
กระเพื่อมอยู่เรื่อย ๆ มันก็ยากนักที่จะตกตะกอนให้มันใสได้ เพราะฉะนั้น ใจของเราก็เหมือนกัน เรา
คิดฟุ้งซ่าน คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ กว่ามันจะสงบ กว่ามันจะนิ่ง มันก็ยากเหมือนกัน แต่ทุกคนก็ทำได้ ถ้า
หากว่าฝึกมัน เพราะฉะนั้น น้ำที่มันกระเพื่อมอยู่บ่อย ๆ นี่มันก็ยากนักที่จะทำให้ใส ก็ต้องทำให้มัน
นิ่ง อย่างเราตักน้ำขุ่น ๆ มาใส่แก้วไว้ก็ตั้งไว้ สัก ๑ วันหรือ ๒ วัน ๓ วันก็ตกตะกอน นั่นหมายความ
ว่ามันนิ่ง เมื่อมันนิ่งมันก็ตกตะกอน ตกตะกอนมันก็ทำให้ใส ใจก็เหมือนกัน ถ้าหากว่าเราสวดมนต์
บ่อย ๆ นั่นแหละฝึกจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน จิตจดจ่ออยู่ที่บทสวดมนต์ มันก็ทำให้จิตนิ่ง นิ่งอยู่ที่ไหน นิ่งอยู่
ที่บทสวดมนต์ พอมากเข้า ๆ จิตที่เคยกังวลเรื่องโน้นเรื่องนี้ มันก็จางหายไป ๆ กลายเป็นจิตเป็น
สมาธิ มันก็ทำให้จิตของเราตกตะกอน พอตกตะกอนมันก็เลยใส ก็เลยเกิดความรู้สึกว่าเบิกบาน สด
่
ชื่น โล่ง โปร่งสบาย นี่คือการสวดมนต์เป็นอยางนี้
ุ
ุ
เพราะฉะนั้น วันนี้ก็ขอเชิญทุกท่านได้ร่วมกันสวดรัตนปริตรร่วมกัน สาธ สาธ สาธุ อนุโมทามิ
ธรรมะบรรยาย
๑๑๕
ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๔
ปลื้มใจ ดีใจ สุขใจ การที่ท่านทั้งหลายได้สวดมนต์นี้ ถือว่าท่านได้รู้จักคุณค่าของตัวเองมาก
ยิ่งขึ้น ท่านรู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชย์ ทุกคนมีเวลาเท่ากัน คือ ๒๔ ชั่วโมง ไม่ขาดไม่เกิน เท่ากัน
แต่ใครจะใช้เวลาในแบบไหน จะใช้เวลานี้กับใคร ใช้เวลานี้กับอะไร ถ้าคนที่รู้จักชีวิตของตัวเอง เขา
จะใช้เวลาส่วนหนึ่งมาสวดมนต์เหมือนกับพวกเรานี่แหละ เพราะทุกครั้งที่เราสวดมนต์นั้น เราได้
สร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ๑) ให้แก่ตัวเอง ๒)ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งในโลกนี้และโลกอื่นด้วย
เช่นโลกทิพย์ อย่างที่เราเริ่มต้นสวดเราก็อันเชิญ ไม่ใช่ เทวดา นาค ครุฑ คนธรรพ์ ยักษ์ เชิญมาเยอะ
เลย ตอนนี้อันเชิญมา ขออันเชิญเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งสถิตอยู่โดยรอบจักวาล ไม่ใช่น้อย ๆ ใน
รอบจักรวาล ในสวรรค์ชั้นกามภพก็มา รูปภพ ภุมมเทวดา ซึ่งสถิตอยู่ในวิมานหรือยอดภูเขา และ
๒๙๐