Page 385 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 385

มนต์ต่อ สวด “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต” สวดบทวิรูปักเขก็สวดไป พอสวดเสร็จ บทกะ

               ระณีก็สวด บทวิปัสสิก็สวด สวด ๓ บทนี้หลัก ๆ

                     พอสวดเสร็จก็นั่งสมาธิ  ก็ขึ้นต้น  “ข้าพเจ้า  ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า  คุณพระธรรม  คุณ

               พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ จงมาดลบันดาล ให้ใจของข้าพเจ้าจงรวมลงเป็นสมาธ          ิ

               พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ พุทโธ พุทโธ” ก็นั่งสมาธิ พอนั่งสมาธิ

               เงียบเข้ามาละทีนี้ โอ้โฮ มันเงียบมาก ๆ อยู่ในป่า ได้ยินเสียงลมพัดไปหวิว ๆ พัดไปพัดมา ก็พุทโธ ๆ

               อยู่ในใจ ไม่ได้ออกเสียง นั่งไปประมาณสัก ๒๐ นาที หรือ ๓๐ นาที ก็มีเสียงรบกวนละทีนี้ มีเสียง

                            ี
               มารบกวน เสยงนั้นมันจะดัง ตุ๊บ ๆ ทีนี้พุทโธไม่อยู่แล้ว ขนหัวลุกซู่ขึ้นมา เหมือนหนาวทั้งตัว เกิด
               อาการขนลุกเริ่มสั่น พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธดังขึ้น พุทโธ ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ พอดังขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อ

               กลบเสียงตุ๊บ ๆ เมื่อเราว่าดัง ๆ แล้ว เอ๊ะ มันไปหรือยังไอ้ตุ๊บตุ๊บนี่หรือว่ามันอยู่ ก็ไม่ว่าพุทโธดัง เงียบ

               สักพักมาอีกแล้ว ตุ๊บ ๆ แหมมันอะไรหนอ ลองสวดวิรูปักเขดูสิ “วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอรา

               ปะเถหิ เม” สวดจนจบ แล้วก็ตั้งใจฟังอีก อ้าวก็ยังตุ๊บ ๆ อยู่อีก มันอะไรกันหนอ พออ้าวเท่านั้น

               แหละขนลุกซู่ขึ้นมาอีก หรือว่ามันเป็นผี คิดไปใหญ่ พอคิดว่าเป็นผีขึ้นมา ก็หนาวขึ้นมาละทีนี้ พอ

               ครั้งที่สองนี่สวด “วิปัสสิสสะ นะมัตถุ จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต” สวดไป ๆ สวดจบก็ฟังเสียงอีก อ้าว

               ก็ยังดังอีก ตุ๊บ ๆ พอเที่ยวนี้และความกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ความกลัวนี่ เอ้ เหลืออีกบทสวดหนึ่ง “บท

               กะระณียะเมตตาสูตร” บทนี้สวดไม่ได้ละ ทีนี้เพราะความกลัวมากขึ้น มันเกิดใจเราสั่นมากขึ้น ทีนี้

               ก็สวดกะระณี กะระณี กะระณีไปไม่รอด บทกะระณีไม่รู้ว่าบทไหนเป็นบทไหน ไม่ไปเลย กะระณี ๆ

               ได้กะระณีอย่างเดียว ปรากฏว่าสวดไม่จบ พอไม่จบแล้วก็เหงื่อก็ไหลออกนะ ความกลัวนี่เป็นเหตุให้

               เรานี่เหงื่อไหล บางทีก็หนาวแต่เหงื่อออกยังไงไม่รู้ ที่นี้ก็ตัดสินใจ ตายเป็นตาย ขอฟังอีกสักทีเถอะ

               ตุ๊บ ๆ ทีนี้ไม่สวดมนต์แล้ว “หลวงพ่อคร๊าบ” ร้องกลางป่าเลย “หลวงพ่อช่วยผมด้วย ตุ๊บ ๆ มาหา

               ผม”  ร้องไปก็ไม่ได้ยินหรอก  เพราะหลวงพ่ออยู่ไกล  ร้องไปอย่างงั้นแหละ  ร้องไปเพื่อกลบเสียง

               ปรากฏว่าไอ้ตุ๊บ ๆ ก็ยังไม่หายอีก

                     คราวนี้ตายเป็นตายละ ขอเปิดกลดดูละ มันจะเป็นอะไรก็ขอตาย เรียกหลวงพ่อแล้วหลวงพ่อ

               ก็ไม่ตอบ ตายเป็นตาย ก็เลยเปิดกลดขึ้นมา เจออะไรรู้ไหม “กระต่าย” โอ้ กระต่ายเวรเอ้ยมาหลอก

               กูได้  ก็เลยรู้เลยว่ากระต่ายนี่มันไม่เดินนะ  มันต้องกระโดด  เพราะหญ้ามันเยอะ  มันเป็นหญ้าตาม

               ภูเขา มันไม่เดิน มันกระโดด ก็เลยเสียงดังสิ มันสงบน่ะ ตุ๊บ ๆ มันมาหลายตัว พอเปิดกลดมันก็วิ่งไป

                                      ู้
               เป็นแถว ๓-๔ ตัว ก็เลยรว่าแหมกระต่ายมาหลอกได้





                                                          ๓๘๕
   380   381   382   383   384   385   386   387   388