Page 381 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 381

ธรรมะบรรยาย                                                            ๑๕๑

                        ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
                                                                                       ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔




                     เป็นอันว่าการสวดพระอภิธรรมน้อมถวายเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่  แด่เจ้าประคุณ  สมเด็จพระ

                                       ิ
                                                      ี
               ญาณวชิโรดม หลวงพ่อวิรยังค์ สิรินฺธโร เรยบร้อย และญาติพี่น้องของท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไป เรา
               ก็อุทิศบุญให้แล้ว เหลือเวลาอีก ๕ นาที ท่านใดอยากจะไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวก็ได้ จากนั้นก็

               มาสวดพระปริตรด้วยกัน

                     เป็นอย่างไรบ้างท่านทั้งหลาย ทันสมัยเหลือเกิน โอ้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แปลว่าอะไรนี่ โอ้โฮ ทำไม

               บางคนถึงกางร่ม  ฝนตกหรือเปล่าหรือยังไง  คุณพัชรีนี่กางร่ม  การที่เราทั้งหลายได้เข้ามาร่วมสวด

               มนต์ อย่าเอาประโยชน์ส่วนตนนะ อย่าเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน แต่แบ่งปันให้คนอื่นด้วย หมายถึง

               บอกเพื่อน  ๆ  ด้วย  การที่เราได้มาสวดมนต์นั่นมันก็เป็นบุญของเรา  แต่เราเผื่อแผ่ให้แก่คนอื่นด้วย

               มันจะเป็นเมตตาบารมี เพราะว่าเราต้องสร้างเมตตาให้มันเกิดขึ้น เมตตาคือความปรารถนาดี เห็น

               คนอื่นมีทุกข์ เราก็ปรารถนาอยากให้เขาพ้นทุกข์ เรามีสุขแล้วก็ต้องการอยากให้คนอื่นมีสุขด้วย

                     พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า “เรารู้แล้วอยากให้ท่านทั้งหลายรู้ เราตื่นแล้วอยากให้ท่านทั้งหลาย

               ตื่นด้วย  เราพ้นแล้วก็อยากจะให้ท่านทั้งหลายพ้นด้วย”  คือท่านไม่เอาเฉพาะตัวของท่านเอง  ทีนี้

               การช่วยเหลือคนอื่นมันลำบากไหม แน่นอน มันลำบากแน่ ๆ มันเหนื่อยแน่ ๆ แต่ว่าเหนื่อยแล้วเรา

               ได้ช่วยเหลือคน มันเป็นบุญกุศลเพราะคนส่วนมากก็ต้องการความสุขด้วยกัน ไม่มีใครต้องการความ

               กังวลใจ ความเครียด ความหงุดหงิด ความเสียใจ ท้อแท้ หดหู่ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ต้องเกิดขึ้น มันเกิดขึ้น

               เพราะอะไร เพราะเรานี่แหละ เราเอาจิตไปเกี่ยวข้อง ที่บอกว่า “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา”

               คือจิตของเรานี่มันไปปรุงแต่ง ถ้าเราไม่ปรุงแต่ง มันก็จะไม่เกิดบาปเกิดบุญ ที่มันเกิดบาปเกิดบุญก็

               เพราะว่าจิตของเราไปปรงแต่ง อย่างตาเห็นรูป เราก็คิดปรุงแต่ง โอ รูปนี้ทำไมสวยจัง รูปนี้ทำไมไม่
                                      ุ
               สวย รูปนี้ทำไมมันเป็นอย่างนี้ โอ มันน่าจะวาดให้ดีกว่านี้ โอ น่าจะแต่งให้ดีกว่านี้ นี่เราปรุงแต่งไป

                              ่
               เอง รูปก็เป็นอยางนั้น เราเห็นแล้วสักว่าเห็น ถ้าทำได้อย่างนี้มันก็ไม่เกิดบาปเกิดบุญ
                     เพราะฉะนั้น  จึงอยู่ที่เรา  เราจะสรางบุญหรือบาป  อยู่ที่ตัวเราเอง  สัตว์โลกทั้งหลายมันก็
                                                       ้
               เป็นไปตามกรรม ตามวาระของเขา อย่างเช่นโรคโควิดมันกำลังแพร่ระบาด คนที่แข็งแรง คนที่รู้จัก

               ป้องกันตัวก็ปลอดภัย แม้ขนาดหมอหรือพยาบาลใส่เครื่องป้องกันอย่างดี ฉีดวัคซีนอย่างดีก็ยังติดโค



                                                          ๓๘๑
   376   377   378   379   380   381   382   383   384   385   386