Page 170 - Visionary Arts 2019
P. 170
เมื่อเข้ำสู่ทศวรรษที่ 1980 ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีส่งผลให้
เกิดกำรลอกเลียนแบบแฟชั่นจำกดำรำโทรทัศน์มำกขึ้นในหมู่วัยรุ่น สังเกตได้
จำกกระโปรงสั้น และเสื้อลำยจุดในหมู่ผู้หญิง ส่วนผู้ชำยจะเน้นไปที่ทรงผมเสีย
มำกกว่ำ โดยผู้ชำยจะเน้นให้ผมโป่งขึ้นและเริ่มไว้จอนข้ำง
จนในทศวรรษที่ 1990 แฟชั่นที่เคยรับมำเริ่มมีกำรคัดสรรอีกครั้ง
ั
ั
โดยกระโปรงส้นของผู้หญิงยังคงได้รับควำมนิยมอยู่และกำรคงกระโปรงส้นนี้
(
ยังเป็นจุดเริ่มของกำงเกงขำสั้นเบอร์มิวดำ Bermuda Shorts ) ซึ่งเป็นสิ่ง
หนึ่งที่แสดงถึงควำมเท่ำเทียมทำงเพศกับผูชำยเพรำะผู้หญิงไม่ได้ถูกก ำหนดให้ใส่
้
แค่กระโปรงเพียงอย่ำงเดียว ส่วนแฟชั่นอื่น ๆ อย่ำงกำรไว้ทรงผมที่ไม่เข้ำกับ
บรรยำกำศของประเทศแถบร้อนชื้น และกำรแต่งตัวจัดแบบเมือก่อนก็เริ่มหำยไป
่
จำกที่กล่ำวไปข้ำงต้นจะเห็นว่ำจุดเปลี่ยนทำงวัฒนธรรมด้ำนกำร
แต่งกำยของชำวสิงคโปร์เกิดขึ้นหลังจำกที่แยกตัวมำเป็นประเทศอย่ำงเต็มตัว
จำกทั้งอังกฤษและมำเลเซีย ชำวสิงคโปร์จึงมีอิสระที่จะตัดสินเลือกรับและปรับ
่
วัฒนธรรมให้เข้ำกับประเทศ ต่ำงกับตอนทียังตกเป็นอำณำนิคมของอังกฤษหรือ
ตกอยู่ภำยใต้อ ำนำจของญี่ปุ่นซึ่ง ณ ขณะนั้นสิ่งหนึ่งที่ชำวสิงคโปร์ใช้แสดงอัต
ลักษณ์ของตน คือ กำรสวมใส่ชุดที่บ่งบอกถึงเชื้อชำติของตัวเอง
สุดท้ำยนี้ผู้เขียนต้องขอขอบพระคุณคณะอักษรศำสตร์อีกครั้งที่มอบ
โอกำสให้ผู้เขียนและเพื่อนร่วมคณะเดินทำงไปทัศนศึกษำ ณ ประเทศสิงคโปร์ซึ่ง
ท ำให้ผู้เขียนเห็นแง่มุมอื่นของประเทศสิงคโปร์นอกเหนือจำกควำมก้ำวหน้ำทำง
เทคโนโลยี
170