Page 22 - งานวารสาร 5/6
P. 22

Scintillation or sparkle  หมายถึง ประกายความระยิบระยับประกายของเพชร

          Dispersion of Fire หมายถึง การกระจายแสงสีรุ้งของเพชร

          Brilliance หมายถึง ความสุกใสส่องสว่างของเพชร เมื่อโดนแสงไฟ

          Clarity Characteristic หมายถึง ลักษณะของต าหนิภายใน (Inclusion) และภายนอกเพชร
          (Blemish) เช่น  Crystal (ผลึก)  pinpoint (รูเข็ม) cloud (กลุ่มของรูเข็มคล้ายเมฆ) natural

          (ร่องรอยการเติบโตของเพชรใช้ยืนยันได้ว่าเป็นเพชรแท้) Feather (รอยแตกเพชรมีลักษณะคล้ายขน

          นก) Abrasion (รอยสึกจะเกิดตรงบริเวณรอยต่อของเหลี่ยมเพชร ก้นเพชร) Polish Lines (รอยขีดเล็กๆ
          ขนานกันบนผิวหน้าของเหลี่ยมเพชรเกิดจากการขั้นตอนการขัดเงาที่ผิวของเพชร)

          Total depth หมายถึง เปอร์เซ็นต์ความลึก ก็คือ สัดส่วนความลึกต่อความกว้างเฉลี่ยของเพชร เพชรที่ลึ

           หรือ หนาเกินไปจะท าให้หน้าเพชรมืด หรือที่เรียกว่า nail head ส่วนเพชรที่บางเกินไป   บางครั้งจะท าให้เห็น เงาสะท้อน

          ของขอบเพชรที่หน้าเพชร ซึ่งถ้าขอบเพชรเป็นแบบ beard-girdle (ขอบขุ่น) จะท าให้เกิด   fish eye เปอร์เซ็นความลึกที่ดีมี

          ค่าอยู่ระหว่าง 58-62.3%
          Table size  หมายถึง  ขนาดของเหลี่ยม Table เป็นแปดเหลี่ยมอยู่กลางหน้าเพชรขนาด table ที่สวยงามอยู่ระหว่าง

          52-60%

          Crown angle  หมายถึง มุมคราวน์ หรือ องศาของยอดเพชร มุมคราวน์ตามเหลี่ยมในอุดมคติ (Ideal cut)

           อยู่ระหว่าง 33-35.1%

          Crown height  หมายถึง ความสูงยอดเพชร (ครึ่งบนของเพชรเมื่อมองจากด้านข้าง) เทียบกับความกว้างเฉลี่ยของเพชร
          ความสูงของคราวน์ตามเหลี่ยมในอุดมคติ (Ideal cut) อยู่ระหว่าง 13.5-16.8%

          Pavillion Angle   หมายถึง   มุมพาวิลเลี่ยน หรือ องศาของฐานเพชร โดยมากจะอยู่ระหว่าง 40.5-41.5 %

          Pavillion Depth   หมายถึง ความลึกของฐานเพชร (ครึ่งล่างของเพชรเมื่อมองจากด้านข้าง) เทียบกับความกว้างเฉลี่ยของ

          เพชร ความลึกของพาวิลเลี่ยนตามเหลี่ยมในอุดมคติ (Ideal cut) อยู่ระหว่าง 42.5-43.5%
         Girdle หมายถึง ขอบเพชร เพชรที่มีคุณภาพดีมักมีขอบเพชรอยู่ระหว่าง thin-medium-slightly thick

         (บาง-กลาง-หนาเล็กน้อย) ควรหลีกเลี่ยงเพชรที่มีขอบบางมาก (Very thin) เพราะขอบเพชรจะเปราะและบิ่นแตกได้ง่าย

         แต่ก็ควรหลีกเหลี่ยงเพชรที่มี

         ขอบหนา (thick-very thick) เพราะแสงจะลอดออกทางขอบเพชร      ความสวยงาม เปล่งประกายของเพชรจะลดลง
         Culet หมายถึง เหลี่ยมที่ส่วนล่างสุดของเพชร (ก้นเพชร) ควรเลือกเพชรที่ไม่มีเหลี่ยม culet (none or pointed) หรือ small

         และหลีกเลี่ยงเพชรที่มี culet ใหญ่กว่า medium ขึ้นไปเพราะเวลามองเพชรจากด้านหน้าจะเห็นเหลี่ยมท าให้เพชรมีความสวย

         น้อยลงกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ









      ที่มา ที่มา http://www.geothai.net/glossary-a-e/                              นางสาวลลิตา โมรานอก เลขที่ 30
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27