Page 13 - งารวารสาร 5/6
P. 13
มีเพียงแต่คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นการ สามารถแบ่งออกเป็น 4Cs ใหญ่ๆ ด้วยกัน
พิสูจน์ว่าเพชรเป็นองค์ประกอบของ คือ Clarity (ความบริสุทธิ์) , Carat
คาร์บอน ต่อมาในปี ค.ศ. 1797 สมิทสัน (น ้าหนักเพชรเทียบเป็นกะรัต) , Color (สี
เท็นแนนต์ (Smithson Tennant) ได้ ของเพชร) และสุดท้าย Cut (รูปแบบและ
ท าซ ้าและเพิ่มเติมการทดลองนี้ ทรงการเจียระไน)
โดยแสดงให้เห็นว่าการเผาไหม้เพชรและก ระดับความบริสุทธิ์ (Clarity)
ราไฟท์จะปลดปล่อยก๊าซที่มีองค์ประกอบ
การจ าแนกความบริสุทธิ์ของ
เดียวกัน สมิทสันได้สร้างสมดุลสมการ เพชร สามารถจ าแนกได้ตามหลักสากล
เคมีของสารเหล่านี้ขึ้นมา
ดังนี้
การใช้งานเพชรส่วนมากในปัจจุบัน 1.Flawless (FL) - เป็นเพชรชั้น
เป็นการใช้ในเชิงอัญมณีซึ่งใช้ท า
เครื่องประดับ การใช้งานในลักษณะนี้ ยอดน ้างามที่สุด ไม่มีต าหนิหรือมลทิน
สามารถนับย้อนไปได้ถึงในสมัยโบราณ ใดๆในทั้งเนื้อเพชรและผิวของเพชร เมื่อ
มองภายใต้กล้องขยาย 10 เท่า (10X)
การกระจายของแสงขาวในสเปกตรัมสี
เป็นลักษณะพื้นฐานทางด้านอัญมณี 2.Internally Flawless (IF) - เป็น
วิทยาของอัญมณีเพชร ใน เพชรชั้นยอดที่ไม่มีต าหนิภายในเนื้อเพชร
คริสต์ศตวรรษที่ 20 ผู้เชี่ยวชาญใน เลย เมื่อมองภายใต้กล้องขยาย 10 เท่า
ด้านอัญมณีวิทยาได้พัฒนาวิธีแบ่งระดับ (10X)
ของเพชรและอัญมณีชนิดอื่นบนพื้นฐาน 3.Very Very Slightly Included
ของลักษณะที่ส าคัญในเชิงมูลค่าของอัญ (VVS1 / VVS2) - เป็นระดับของเพชรที่มี
มณี 4 ลักษณะหรือที่รู้จักกันในชื่อ 4 มลทินในเนื้อเพชรให้เห็นได้น้อยมากๆ ไม่
ซี ถูกใช้เป็นพื้นฐานการบ่งชี้ของเพชร สามารถเห็นได้ด้วยตา
ประกอบด้วย กะรัต (carat) การตัด เปล่า จะต้องใช้กล้อง
(cut) สี (color) และ ความสะอาด ก าลังขยาย 10 เท่า
[9]
(clarity) เพชรไม่มีต าหนิที่มีขนาดใหญ่ ส่องจึงเห็น และจะต้อง
ที่สุดรู้จักกันในชื่อ พารากอน ใช้เวลาในการค้นหา
คุณสมบัติของเพชร ค่อนข้างนาน แล้วแต่
ความช านาญของผู้
เพชรเป็นผลึกโปร่งใสของอะตอม ตรวจสอบ จ าแนก
คาร์บอนที่จับยึดกับแบบรูปพีระมิด (sp3) ออกเป็นระดับ 1 และ 2
ตกผลึกกลายเป็นโครงข่ายเพชรที่เป็น ตามล าดับ หากต าหนิ
การแปรผันของโครงสร้างลูกบาศก์แบบ น้อยมากจะใช้ VVS1
เฟซเซ็นเตอร์ (face centered cubic) หากต าหนิที่สามารถ
เห็นได้ชัดมากขึ้นจะใช้ VVS2
การจ าแนกระดับต่างๆของเพชรให้ดูถึง
ความบริสุทธิ์ที่เพชรมี ในหลักสากล