Page 484 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 484
คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง ๔๕๖
ส่วนที่ ๔
เมื่อคดีไม่มีข้อพิพาทกลายเป็นคดีมีข้อพิพาท
ถ้ามีผู้คัดค้าน คดีกลายเป็นคดีมีข้อพิพาท (กรณีคัดค้านการขอตั้งผู้จัดการมรดกถ้าผู้คัดค้าน
ขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านต้องเสียค่าขึ้นศาลด้วย) สั่งค าร้องคัดค้านว่า
“รับค าร้องคัดค้าน ส าเนาให้ผู้ร้อง นัดพร้อมในวันนัดไต่สวน”
ไม่ควรเรียกผู้ร้องว่าโจทก์และผู้คัดค้านว่าจ าเลย แต่ให้เรียกว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านตามเดิม
ต่อไป
ผู้คัดค้านจะต้องมีส่วนได้เสียด้วย (ฎีกาที่ ๘๔๒/๒๔๘๗, ๓๘๐/๒๕๐๙, ๒๒๔๙/ ๒๕๒๑)
ป.วิ.พ. มาตรา ๑๘๘ (๔) ที่ว่า ถ้ามีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี ให้ถือว่าเป็นคู่ความและให้
ด าเนินคดีไปตามบทบัญญัติว่าด้วยคดีมีข้อพิพาทนั้น หมายความเฉพาะแต่เป็นผู้ที่จะคัดค้านได้
เท่านั้น มิได้หมายความว่าเมื่อมีใครคัดค้านเข้ามาแล้ว จะกลายเป็นคู่ความทั้งหมด (ฎีกาที่ ๘๒๒/
๒๔๙๑ ประชุมใหญ่)
เมื่อเป็นคดีมีข้อพิพาท บางกรณีถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เช่น การขอแสดงกรรมสิทธิ์
ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ มีผู้คัดค้านต่อสู้ในเรื่องกรรมสิทธิ์จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ ผู้ร้อง
ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ (ฎีกาที่ ๑๗๐/๒๕๐๖, ๔๙๓๑/๒๕๔๑) คดีที่ฟ้องต่อศาลจังหวัด
หากทุนทรัพย์อยู่ในอ านาจศาลแขวง ศาลจังหวัดที่รับค าร้องไว้ต้องโอนคดีไปยังศาลแขวง
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา ๑๗, ๒๕ (๔) (ฎีกาที่ ๑๖๗๗/๒๕๔๗, ๑๖๖๕/๒๕๔๘)
กรณีขอให้สั่งตั้งผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านก็ขอให้ตั้งผู้คัดค้านต่างคนต่างกล่าวอ้าง ผู้ร้อง
เป็นผู้เริ่มคดี ให้ผู้ร้องน าสืบก่อนและสืบแก้ผู้คัดค้านไปด้วย ถ้าเห็นสมควรศาลอาจตั้งผู้ร้องและ
ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน (ฎีกาที่ ๑๐๘๖/๒๕๒๐) แต่จะประนีประนอมยอมความ
ไม่ได้เพราะการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ศาลจะต้องไต่สวน ให้ได้ความว่า ผู้ร้องมีคุณสมบัติ
ตามกฎหมาย (ฎีกาที่ ๕๐๑๒/๒๕๓๘)
คดีไม่มีข้อพิพาทแม้มีผู้คัดค้าน บางกรณีก็ไม่กลายเป็นคดีมีข้อพิพาทดังที่บัญญัติยกเว้นไว้
ตามมาตรา ๑๘๘ (๔) ตอนท้าย
เมื่อผู้ร้องยื่นค าร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์อันเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท
เมื่อมีผู้คัดค้านขึ้นมาตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๑๘๘(๔) ให้ด าเนินคดีไปอย่างคดีมีข้อพิพาท ผู้ร้องจึงมี
ฐานะเป็นโจทก์ ผู้คัดค้านย่อมมีฐานะเป็นจ าเลยจึงมีสิทธิฟ้องแย้งผู้ร้องได้ (ฎีกาที่ ๓๘๕/๒๕๔๔)