Page 128 - วารสาร 9 1_2560
P. 128
นิพนธ์ต้นฉบับ
กานดา ศรีตระกูล, พิษณุรักษ์ กันทวี
ความเป็นมา ชักจูงกลุ่มเป้าหมาย ความรู้เรื่องโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติด ปากมดลูกในรายด้านพบว่า มีความแตกต่าง
เชื้อไวรัสเอชพีวี Human Papilloma Virus จากก่อนทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่
(HPV) บริเวณ อวัยวะเพศโดยเฉพาะบริเวณ P=0.05 และหลังจากให้โปรแกรมในกลุ่มสตรี
ปากมดลูก ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่เกิดจากการ อายุ 30 – 60 ปี มารับบริการตรวจคัดกรอง
การมีคู่นอนหลายคนมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยัง มะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 55.2 เป็น
น้อย และตั้งครรภ์ขณะอายุยังน้อย อาการ ร้อยละ 61.3 เช่นเดียวกับการศึกษาที่ให้
แสดง ได้แก่ การตกเลือดทางช่องคลอด โปรแกรมเพื่อส่งเสริมความรู้ การรับรู้สุขภาพ
เลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน และทัศนคติมีความสัมพันธ์ต่อการเข้ารับ
เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวปนเลือด บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างมี
5,6
ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นอาการระยะก่อนมะเร็ง นัยส าคัญทางสถิติที่ P= 0.05
เซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลามไปยังชั้นเยื่อบุผิวปาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ทีมผู้วิจัย
มดลูก สามารถตรวจพบได้จากการตรวจคัด ได้ศึกษาระดับความเชื่อด้านสุขภาพต่อ
กรองโดยการตรวจทางเซลล์วิทยาของปาก โรคมะเร็งปากมดลูกและทัศนคติต่อการเข้า
1
มดลูกที่ เรียกว่า แพปสเมียร Pap Smear รับการตรวจคัดกรองโดยการใช้โปรแกรมการ
จากรายงานสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ประเทศไทย รับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อระดับทัศนคติใน
พบโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 2 รองจาก สตรีที่เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปาก
มะเร็งเต้านม ตั้งแต่ปี 2552 – 2557 พบจ านวน มดลูก ผลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้เพื่อน าไป
ผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ 289 276 ปรับใช้กับกิจกรรม การส่งเสริมสุขภาพหรือ
289 340 356 และ 288 ราย ตามล าดับ คัดกรองของโรคเรื้อรังอื่น ๆ ในชุมชนต่อไป
จากรายงานของส านักงานปลัดกระ- วัตถุประสงค์ของการวิจัย
ทรวงสาธารณสุข อัตราการคัดกรองมะเร็งปาก เพื่อประเมินผลโปรแกรมการรับรู้
มดลูกในสตรีอายุ 30 – 60 ปี ตั้งแต่ปี 2556 – ความเชื่อด้านสุขภาพต่อระดับทัศนคติในสตรี
2559 พบร้อยละ 7.43 7.58 15.63 และ ที่เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
14.39 ตามล าดับการรณรงค์ การตรวจคัดกรอง
มะเร็งปากมดลูกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ รูปแบบการวิจัย
ต าบลท่าข้าวเปลือก อ าเภอแม่จัน จังหวัด การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่ง
เชียงราย ปีพ.ศ. 2556–2559 เท่ากับ ร้อยละ ทดลองชนิดกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการ
1.25 0.90 22.36 และ11.09 ตามล าดับ 3 ทดลอง (Quasi- Experimental in One
โดยตัวชี้วัดได้ก าหนดการตรวจคัดกรองมะเร็ง Group Pretest Posttest) โดยใช้โปรแกรม
การรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อระดับ
ปากมดลูกครอบคลุมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ทัศนคติในสตรีที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง
ของประชากรกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งผลจากการให้
โปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะ แกนน าด้วยการ มะเร็งปากมดลูก
บรรยายประกอบสื่อและสาธิตปฏิบัติการ
128 >> เชียงรายเวชสาร :: CHIANGRAI MEDICAL JOURNAL